จับแล้ว ! จระเข้หลุดจากฟาร์มสิงห์บุรี

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – ชาวบ้านผวาพบจระเข้บึงหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลพักทัน อำเภอพักทัน จังหวัดสิงห์บุรี ขนาดยาว 2.50 เมตร ชุดปฏิบัติการไกรทองรุดจับก่อนที่จะเกิดอันตรายต่อประชาชน


นายถาวร ทันใจ ผู้อำนวยการกองตรวจการประมง กรมประมง กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากประมงจังหวัดสิงห์บุรี ว่า ชาวบ้านหมู่ 2 ตำบลพักทัน อำเภอบางระจัน พบจระเข้ตัวใหญ่ในบึงหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลพักทัน ขณะทาง อบต.กำลังลอกวัชพืชในแหล่งน้ำดังกล่าววันที่ 9 กันยายน ชาวบ้านหวั่นวิตกมากเกรงจะได้รับอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กเล็ก กรมประมงจึงเร่งส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการไกรทองจากจังหวัดนครสวรรค์ไปตรวจสอบและจับได้ตอนประมาณ 02.30 น.วันที่ 10 กันยายน จระเข้ที่จับได้เป็นเพศผู้ขนาด 2.50 เมตร มีสภาพสมบูรณ์ ประมงจังหวัดสิงห์บุรีได้ทำหนังสือส่งไปเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์แล้ว


นายถาวร คาดว่า จระเข้ตัวนี้หลุดออกมาจากฟาร์ม แต่ไม่มีผู้ใดรับเป็นเจ้าของ เนื่องจากเกรงจะมีความผิด จระเข้เป็นสัตว์ควบคุมผู้เพาะเลี้ยงต้องได้รับอนุญาตจากกรมประมง ซึ่งจะต้องป้องกันไม่ให้หลุดออกมาจากสถานที่เพาะเลี้ยง ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.ประมง สำหรับเรื่องที่เป็นห่วงมากขณะนี้ คือ พื้นที่ที่เกิดอุทกภัยส่วนใหญ่มีฟาร์มเลี้ยงจระเข้ หากทางฟาร์มไม่เสริมคันบ่อไม่ใช้ตะแกรงปิดปากบ่อ และไม่ปิดทางระบายน้ำอาจทำให้มีจระเข้หลุดรอดออกมาได้ สำหรับการเฝ้าระวังและให้ฟาร์มจระเข้เตรียมพร้อมทำมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม รวมถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการไกรทองเมื่อเกิดอุทกภัยจึงกำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังมากขึ้นเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ให้ประมงจังหวัดทุกจังหวัดหมั่นไปตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของบ่อเลี้ยงทุกฟาร์ม พร้อมส่งหนังสือเตือนและคำแนะนำในการเฝ้าระวังไม่ให้จระเข้หลุด 

สำหรับการทำงานของชุดปฏิบัติการไกรทองจะมีเจ้าหน้าที่ 5-6 คน โดยได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีคล้องจับ รวบตัว มัดปาก โดยต้องระวังไม่ให้ถูกหางฟาด เนื่องจากหากเป็นจระเข้ตัวใหญ่จะมีแรงมากทำให้บาดเจ็บได้ รวมทั้งหากจระเข้งับโดยธรรมชาติแล้วมันจะสะบัด ทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่ยังต้องประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าจับ เช่น หากจับเวลากลางวันจระเข้จะตื่นตัวต้องระมัดระวังกว่าตอนกลางคืน ซึ่งจระเข้มองเห็นไม่ชัด ฝึกการดูพฤติกรรมว่าดุมากน้อยแค่ไหน หากเป็นช่วงฤดูผสมพันธุ์จะดุมากขึ้น 


ทั้งนี้ ปีนี้กรมประมงอบรมเจ้าหน้าที่เป็นชุดปฏิบัติการไกรทอง 30 คน ซึ่งจะปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่อบรมปีก่อนรวม 80 นาย เครือข่ายไกรทองเตรียมพร้อมเฝ้าค้นหาและจับจระเข้หากได้รับแจ้งว่า พบจระเข้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยศูนย์ชุดปฏิบัติการไกรทองมี 8 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา ระยอง นครราชสีมา สงขลา สุราษฎร์ธานี และกระบี่ นอกจากนี้ ยังมี 43 เครือข่ายย่อยซึ่งสามารถปฏิบัติงานได้ครอบคลุมทั้งประเทศ ขอให้ประชาชนอย่าหวาดวิตก นอกจากนี้ หากพบเห็นจระเข้ในแหล่งน้ำธรรมชาติอย่าจับเองให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น เพื่อประสานมายังประมงจังหวัดทันทีจะได้ส่งชุดปฏิบัติการไกรทองเข้าไปจับ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดต่อประชาชน

ด้านนายวิชาญ อิงศรีสว่าง รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า มีประชาชนจำนวนมากสอบถามเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยในการดูแลไม่ให้มีจระเข้จากฟาร์มหลุดรอดลงแหล่งน้ำธรรมชาติ  โดยเฉพาะพื้นที่เกิดอุทกภัย ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการการเพาะเลี้ยงจระเข้ 1,067 ฟาร์ม สำหรับพื้นที่น้ำท่วม 19 จังหวัด มีฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้ 284 ฟาร์ม ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังอย่างเข้มงวดและเข้าตรวจสอบฟาร์มต่าง ๆ ถี่ขึ้น

ทั้งนี้ ขอย้ำเตือนให้ผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงจระเข้เพิ่มความระมัดระวังในการควบคุม ดูแล จระเข้ในครอบครองให้มากขึ้นเป็นพิเศษและปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมประมง โดยตรวจสอบฟาร์มโดยเฉพาะบ่อเลี้ยงจระเข้ให้มีความแข็งแรงปลอดภัยอยู่เสมอ คัดแยกจระเข้ที่เลี้ยงแต่ละบ่อให้มีขนาดเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้จระเข้ที่มีขนาดเล็กกว่าหลุดรอดลงท่อน้ำทิ้ง กรณีที่มีการทำความสะอาดบ่อเลี้ยง ปล่อยจระเข้ลงเลี้ยงในอัตราที่ไม่หนาแน่นจนเกินไป เพื่อไม่ให้จระเข้เกิดความเครียด ซึ่งอาจจะทำให้จระเข้ป่วยและเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบจำนวนจระเข้ หากฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้รายใดมีความเสี่ยงต่อการหลุดรอดของจระเข้ ขอให้เจ้าของฟาร์มเคลื่อนย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัย และทำการแก้ไขปรับปรุงฟาร์มให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยต่อการเพาะเลี้ยงจับจระเข้ที่ได้ขนาดออกขาย เพื่อลดปริมาณความหนาแน่นของจระเข้ในบ่อเลี้ยงและให้ผู้ประกอบการติดตามข่าวสารด้านสถานการณ์น้ำจากทางราชการอย่างใกล้ชิดและคำแนะนำในการควบคุมดูแลจระเข้กรณีฟาร์มประสบภัยน้ำท่วมโดยปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

“ประชาชนที่พบเห็นจระเข้ในแหล่งน้ำสาธารณะหรือแหล่งน้ำธรรมชาติ โปรดแจ้งสำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อกรมประมง ได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 0-2562-0600 หรือหากเกษตรกรประสบปัญหาต้องการความช่วยเหลือต่าง ๆ สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำหรือขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานประมงอำเภอ สำนักงานประมงจังหวัด และศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงในพื้นที่ หรือกองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษกลุ่มช่วยเหลือเกษตรกรและชาวประมง กรมประมง โทรศัพท์หมายเลข 0-2558-0218และ0-256-4740” รองอธิบดีกรมประมง กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

ถึงไทยแล้ว “วิว กุลวุฒิ” เผยพยายามรักษาแชมป์ให้นานที่สุด

สนามบินดอนเมือง 8 มิ.ย.- “วิว กุลวุฒิ” นักแบดมินตันชายเดี่ยว มือ 1 ของโลก ถึงไทยแล้ว เผยพยายามรักษาแชมป์ให้นานที่สุด เตรียมลุยเป้าหมาย “ออล อิงแลนด์” “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตันประเภทชายเดี่ยวของไทย พร้อม “โค้ชเป้” ภัททพล เงินศรีสุข เดินทางกลับถึงประเทศไทย หลังเข้าร่วมการแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ อินโดนีเซีย โอเพ่น 2025 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,450,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อิสโตร่า เสนายัน ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 3-8 มิถุนายน 2568 โดยรอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 1 ของโลกและมือ 2 ของรายการ พบกับ โจว เทียนเฉิน มือ 7 ของโลกจากไต้หวัน […]