59 ปี การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) สว่างทั่วทิศ สร้างคุณภาพชีวิตทั่วไทย


การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 11 ก.ย. – PEA ชูแผนปฏิบัติการ 5 ปี ยกระดับระบบไฟฟ้าให้เป็นเลิศด้วยดิจิทัล เชื่อมโยงลูกค้าด้วยเทคโนโลยี ปรับเปลี่ยนสู่องค์กรทันสมัย เสริมสร้างบุคลากรแห่งอนาคตและพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล ขับเคลื่อนเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความเจริญทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ให้บริการไฟฟ้าที่มั่นคง ปลอดภัย มุ่งมั่นให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้ 100% 





วันที่ 11 กันยายน 2562 เวลา 09.30 น. นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) แถลงข่าวเนื่องในโอกาสวันสถาปนาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคครบรอบ 59 ปี ในวันที่ 28 กันยายน 2562 โดยมีผู้บริหาร PEA และสื่อมวลชนร่วมรับฟังการแถลงข่าว ณ โถงชั้น 1 อาคาร LED สำนักงานใหญ่ PEA กรุงเทพฯ

PEA ให้บริการพลังงานไฟฟ้าและดำเนินธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจทั้งด้านคุณภาพและบริการ โดยการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมและเป็นองค์กรชั้นนำที่ทันสมัยในระดับภูมิภาค มุ่งมั่นให้บริการพลังงานไฟฟ้าและธุรกิจเกี่ยวเนื่องอย่างครบวงจรที่มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ให้บริการพลังงานไฟฟ้าที่มั่นคง ปลอดภัยและมุ่งมั่นให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้

ภารกิจและโครงการที่สำคัญของ PEA :  อาทิ โครงการ 1 จังหวัด 1 ถนนเฉลิมพระเกียรติ : PEA สนับสนุนโครงการดังกล่าว เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปรับปรุงระบบไฟฟ้าเคเบิลใต้ดิน 1 จังหวัด 1 ถนน ระยะทางจังหวัดละ 1 – 2 กิโลเมตร โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการก่อสร้างระบบไฟฟ้าเคเบิลใต้ดินทั้งหมด

การจัดระเบียบสายสื่อสาร : PEA เป็นเจ้าภาพในการจัดระเบียบสายสื่อสารทั่วประเทศ โดยนำสายที่ไม่ได้ใช้งาน (สายตาย) ออกทั้งหมดและจัดระเบียบสายเข้าคอนในพื้นที่ที่กำหนด แล้วเสร็จกลางปี 2563

โครงด้านระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

โครงการขยายเขตระบบไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่

พัฒนางานบริการลูกค้า

  PEA Smart Plus Application 

  PEA Smart Front Office

  PEA Mobile Office

  1129 PEA Call Center 

งานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR)

IN-Process : บริการไฟฟ้าที่มีคุณภาพ การจัดซื้อ-จัดจ้าง โปร่งใสเป็นธรรม

AFTER-Process

– โครงการชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA ดำเนินการในพื้นที่ 12 เขต 12 ชุมชน

– โครงการ 1 ตำบล 1 ช่างไฟฟ้า พัฒนาอาชีพให้ชุมชน ยกระดับมาตรฐานการติดตั้งและความปลอดภัย

– การสนับสนุนงบจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลจำนวน 77 แห่งๆ ละ 10 ล้านบาท


ทิศทางองค์กรสู่อนาคต :  PEA พลิกองค์กรสู่การเป็น Digital Utility รองรับยุคเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไฟฟ้าโดย Electrification Decentralization & Digitalization (E2D) เปลี่ยนแปลงกระบวนการหรือโครงสร้างที่มีในปัจจุบัน ดังนั้น PEA จึงปรับตัวเพื่อเป็น Digital Organization นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับขั้นตอนการดำเนินงานให้รวดเร็ว ถูกต้อง ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 

Smart Grid

  โครงการนำร่องติดตั้ง Smart Meter จำนวน 116,308 เครื่อง ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ภายในปี 2563

Micro Grid

  โครงการนำร่อง Micro Grid อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 

  โครงการนำร่องการบริหารจัดการพลังงานในระบบจำหน่ายของ PEA ภายในปี 2565

โครงการรองรับ Disruptive Technology และธุรกิจใหม่

PEA HERO PLATFORM : ระบบบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าให้เกิดประสิทธิภาพ คุ้มค่า สะดวกสบาย 

ต่อผู้ใช้บริการด้วยระบบดิจิทัล

  PEA Solar Hero Application : แอปพลิเคชันสำหรับติดตั้ง Solar Rooftop

  PEA Hero Care & Service : แอปพลิเคชันสำหรับเรียกช่างซ่อมไฟฟ้า

  PEA Hero Energy Solution : แอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการพลังงาน

  PEA Hero Energy Hero Trading : แอปพลิเคชันสำหรับแลกเปลี่ยนพลังงาน

IHAPM (PEA Intelligent Home Appliances Power Monitoring) 

NETP (National Energy Trading Platform) 

EV & EV Charging Stations : ลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ จำนวน 62 สถานี ทุกระยะ 

100 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลัก

โดย นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เผยว่า 59 ปีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA ขยายเขตไฟฟ้าได้ 99.97% ประชาชนเกือบ 100% มีกระเเสไฟฟ้าใช้ ระบบไฟฟ้าของเรา ยังมีส่วนเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่เติบโต แต่ความต้องการใช้ไฟยังคงเกิดขึ้น 1 ปีเฉลี่ยปีละ 3% จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างระบบไฟฟ้าเพื่อมารองรับอีกหลายโครงการสำคัญๆ เช่น โครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่าย เน้นการสร้างสถานีไฟฟ้าและสายส่งระบบจำหน่ายเสาพาดสายไฟ เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้น มีโครงการเพื่อสนับสนุนให้บ้านเมืองมี Landscape สวยงาม นำสายไฟลงใต้ดิน โครงการให้ชุมชนตามเกาะต่างๆ มีกระเเสไฟฟ้าเช่นเดียวกับคนที่อยู่แผ่นดินใหญ่ โดยการเดินสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะต่างๆ ปัจจุบันเราทำแล้ว 26 เกาะก็ยังทำเกาะอื่นๆ เพิ่มขึ้นไป นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับบ้านที่เกิดขึ้นใหม่ทั่วประเทศ โครงการขยายเขตไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่ ห่างไกลจากระบบจำหน่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะทำให้ชุมชนเกิดขึ้นใหม่นี้มีกระแสไฟฟ้าใช้

“สว่างทั่วทิศ สร้างคุณภาพชีวิตทั่วไทย” Brightness for Life Quality


โครงการที่จะบริหารจัดการเรื่อง Disruptive Technology คือเทคโนโลยีที่จะมาทำลายล้างของเก่าๆ สร้างสิ่งใหม่ๆ

1. Electrification เป็นรูปของไฟฟ้า อุปกรณ์มากมายเริ่มหันมาใช้ไฟฟ้ามากขึ้น รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ต้นทุนที่ถูกกว่า ค่าการใช้เฉลี่ยต่อกิโลเมตร คือ กิโลเมตรละ 0.50 สตางค์ เทียบกับรถปัจจุบัน ICE (Internal Combustion Engine) เติมน้ำมันเฉลี่ย 2-3 บาท ประกอบกับรถ EV Car ไม่มีเครื่องยนต์ มีแต่เเบตเตอรี-มอเตอร์ การบำรุงรักษาง่าย ค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่า คนก็จะหันมาใช้มากขึ้น ความต้องการใช้ไฟฟ้าก็จะเพิ่มขึ้น เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ไฟในแง่ของมีต้นทุนการใช้การคมนาคมที่สูงขึ้น

2. โอกาสของผู้ใช้ไฟในอนาคต ผลิตไฟฟ้าใช้เอง Decentralization (ผลิตไฟใช้เองในบ้าน) แผงโซลาร์ราคาถูกลงค่อนข้างมาก ถ้าเราสามารถติดตั้ง Solar Rooftop บนหลังคาก็จะผลิตไฟใช้เองภายในบ้านได้ กลางวันถ้าไม่อยู่บ้านยังขายในระบบได้ด้วย ซึ่งรัฐบาลมีโครงการทดลอง 100 เมกะวัตต์ทั่วประเทศในเขตความรับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 70 เมกะวัตต์ การจัดการระบบไฟฟ้าในอนาคตเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง จึงมีโครงการ Smart Grid รองรับเทคโนโลยีในอนาคต 

ส่วนการนำสายไฟลงใต้ดิน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขอเป็นเจ้าภาพ เพราะสายสื่อสารเป็นปัญหากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมานาน เสาไฟฟ้าไม่ได้ถูกออกแบบไว้รับสายสื่อสารปริมาณมากขนาดนั้น ออกแบบเพื่อรับสายไฟ 6-7 เส้น ที่เหลือมีสายสื่อสารเป็นร้อยๆ เส้น มีปัญหาเสาล้มง่าย มีผู้เสียชีวิต เกิดเหตุเพลิงไหม้ จึงเชิญ Operator ทั้ง 14 รายคุยเเนวทางจัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขอเป็นเจ้าภาพเอาลงเองทั้งหมด คิดค่าใช้จ่ายจากทั้ง 14 ราย วางเป้าหมายกลางปีหน้า มิ.ย. 2563 สายสื่อสารรกรุงรังเยอะๆ สายตาย ไม่ได้ใช้งานเเล้วต้องถูกเอาลงให้หมด ถูกจัดระเบียบใหม่ ไม่รกรุงรังอีกต่อไป จัดการพร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 25 ก.ย.2562 ใช้เวลา 8 เดือน กลางปีหน้าระบบสายสื่อสารในเขตรับผิดชอบการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีความยาวอยู่ 9,000 กิโลเมตร ต้องถูกจัดระเบียบให้เเล้วเสร็จภายในกลางปีหน้า 74 จังหวัด ทั่วประเทศ ยังไม่ได้ประมาณการลงทุนคาดเป็นหลักหลายพันล้านบาท 


สายเคเบิลใต้ดินเป็นสิ่งที่ดีและก็น่าทำ แต่ใช้เงินลงทุนสูงมากกว่าสายบนอากาศ 10 เท่า จะเป็นภาระต่อผู้ใช้ไฟ ค่าไฟแพงขึ้นเเน่นอน โดยจะเลือกเป็นพื้นที่ โครงเมืองหลัก เช่น เมืองธุรกิจ เมืองท่องเที่ยว อาจเป็นเชียงใหม่ โคราช ขอนแก่น สงขลา พัทยา ภูเก็ต ทำไปเยอะเเล้ว แต่มีโครงการเศรษฐกิจอีกฉบับกระทรวงมหาดไทยทำ โครงการเฉลิมพระเกียรติ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็จะสนับสนุนทำทุกจังหวัด จังหวัดละ 2 กิโลเมตร เอาสายลงดินเพื่อให้ทุกจังหวัดมีสายไฟเคเบิลใต้ดินเป็นหัวหลักของจังหวัด ทั้งนี้ ในเขตรับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทุกวันนี้ ขยายเขตไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟเเล้ว 99.97% มีผู้ใช้ไฟ 19,200,000 ราย ที่เหลืออีก 0.03% ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนไม่สามารถเข้าไปได้ เป็นเขตหวงห้ามทางราชการ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]

“บุ๋ม” รับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ หลวงพ่อวราห์ แจกทหารชายแดน

9 ส.ค. – “บุ๋ม ปนัดดา” เริ่มภารกิจโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. วันแรก เข้ารับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ จากหลวงพ่อวราห์ นำไปมอบให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจแนวหน้า บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง เข้าพบหลวงพ่อวราห์ พระเทพวชิระวิทยานุสิฐ วราห์ ปุญฺญวโร ตำนานผู้สร้างพญาครุฑ เพื่อรับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ ไปแจกให้ทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทหารแนวหน้า บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับการประสานจากหลวงพ่อวราห์ ให้เข้ามารับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ นำไปมอบให้กับทหารชายแดน เพราะทหารต้องการขวัญและกำลังใจ ดังนั้น อะไรที่ทำให้ทหารอุ่นใจและมีกำลังใจก็จะทำให้ สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อวราห์ แห่งวัดโพธิ์ทอง บางมด กรุงเทพฯ ผ้ายันต์รุ่นบูชาครู จำนวน 2,000 ผืน และเหรียญครุฑ รุ่นเฉพาะกิจ จำนวน 2,000 เหรียญ ที่บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]