59 ปี การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) สว่างทั่วทิศ สร้างคุณภาพชีวิตทั่วไทย


การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 11 ก.ย. – PEA ชูแผนปฏิบัติการ 5 ปี ยกระดับระบบไฟฟ้าให้เป็นเลิศด้วยดิจิทัล เชื่อมโยงลูกค้าด้วยเทคโนโลยี ปรับเปลี่ยนสู่องค์กรทันสมัย เสริมสร้างบุคลากรแห่งอนาคตและพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล ขับเคลื่อนเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความเจริญทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ให้บริการไฟฟ้าที่มั่นคง ปลอดภัย มุ่งมั่นให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้ 100% 





วันที่ 11 กันยายน 2562 เวลา 09.30 น. นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) แถลงข่าวเนื่องในโอกาสวันสถาปนาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคครบรอบ 59 ปี ในวันที่ 28 กันยายน 2562 โดยมีผู้บริหาร PEA และสื่อมวลชนร่วมรับฟังการแถลงข่าว ณ โถงชั้น 1 อาคาร LED สำนักงานใหญ่ PEA กรุงเทพฯ

PEA ให้บริการพลังงานไฟฟ้าและดำเนินธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจทั้งด้านคุณภาพและบริการ โดยการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมและเป็นองค์กรชั้นนำที่ทันสมัยในระดับภูมิภาค มุ่งมั่นให้บริการพลังงานไฟฟ้าและธุรกิจเกี่ยวเนื่องอย่างครบวงจรที่มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ให้บริการพลังงานไฟฟ้าที่มั่นคง ปลอดภัยและมุ่งมั่นให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้

ภารกิจและโครงการที่สำคัญของ PEA :  อาทิ โครงการ 1 จังหวัด 1 ถนนเฉลิมพระเกียรติ : PEA สนับสนุนโครงการดังกล่าว เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปรับปรุงระบบไฟฟ้าเคเบิลใต้ดิน 1 จังหวัด 1 ถนน ระยะทางจังหวัดละ 1 – 2 กิโลเมตร โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการก่อสร้างระบบไฟฟ้าเคเบิลใต้ดินทั้งหมด

การจัดระเบียบสายสื่อสาร : PEA เป็นเจ้าภาพในการจัดระเบียบสายสื่อสารทั่วประเทศ โดยนำสายที่ไม่ได้ใช้งาน (สายตาย) ออกทั้งหมดและจัดระเบียบสายเข้าคอนในพื้นที่ที่กำหนด แล้วเสร็จกลางปี 2563

โครงด้านระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

โครงการขยายเขตระบบไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่

พัฒนางานบริการลูกค้า

  PEA Smart Plus Application 

  PEA Smart Front Office

  PEA Mobile Office

  1129 PEA Call Center 

งานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR)

IN-Process : บริการไฟฟ้าที่มีคุณภาพ การจัดซื้อ-จัดจ้าง โปร่งใสเป็นธรรม

AFTER-Process

– โครงการชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA ดำเนินการในพื้นที่ 12 เขต 12 ชุมชน

– โครงการ 1 ตำบล 1 ช่างไฟฟ้า พัฒนาอาชีพให้ชุมชน ยกระดับมาตรฐานการติดตั้งและความปลอดภัย

– การสนับสนุนงบจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลจำนวน 77 แห่งๆ ละ 10 ล้านบาท


ทิศทางองค์กรสู่อนาคต :  PEA พลิกองค์กรสู่การเป็น Digital Utility รองรับยุคเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไฟฟ้าโดย Electrification Decentralization & Digitalization (E2D) เปลี่ยนแปลงกระบวนการหรือโครงสร้างที่มีในปัจจุบัน ดังนั้น PEA จึงปรับตัวเพื่อเป็น Digital Organization นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับขั้นตอนการดำเนินงานให้รวดเร็ว ถูกต้อง ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 

Smart Grid

  โครงการนำร่องติดตั้ง Smart Meter จำนวน 116,308 เครื่อง ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ภายในปี 2563

Micro Grid

  โครงการนำร่อง Micro Grid อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 

  โครงการนำร่องการบริหารจัดการพลังงานในระบบจำหน่ายของ PEA ภายในปี 2565

โครงการรองรับ Disruptive Technology และธุรกิจใหม่

PEA HERO PLATFORM : ระบบบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าให้เกิดประสิทธิภาพ คุ้มค่า สะดวกสบาย 

ต่อผู้ใช้บริการด้วยระบบดิจิทัล

  PEA Solar Hero Application : แอปพลิเคชันสำหรับติดตั้ง Solar Rooftop

  PEA Hero Care & Service : แอปพลิเคชันสำหรับเรียกช่างซ่อมไฟฟ้า

  PEA Hero Energy Solution : แอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการพลังงาน

  PEA Hero Energy Hero Trading : แอปพลิเคชันสำหรับแลกเปลี่ยนพลังงาน

IHAPM (PEA Intelligent Home Appliances Power Monitoring) 

NETP (National Energy Trading Platform) 

EV & EV Charging Stations : ลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ จำนวน 62 สถานี ทุกระยะ 

100 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลัก

โดย นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เผยว่า 59 ปีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA ขยายเขตไฟฟ้าได้ 99.97% ประชาชนเกือบ 100% มีกระเเสไฟฟ้าใช้ ระบบไฟฟ้าของเรา ยังมีส่วนเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่เติบโต แต่ความต้องการใช้ไฟยังคงเกิดขึ้น 1 ปีเฉลี่ยปีละ 3% จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างระบบไฟฟ้าเพื่อมารองรับอีกหลายโครงการสำคัญๆ เช่น โครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่าย เน้นการสร้างสถานีไฟฟ้าและสายส่งระบบจำหน่ายเสาพาดสายไฟ เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้น มีโครงการเพื่อสนับสนุนให้บ้านเมืองมี Landscape สวยงาม นำสายไฟลงใต้ดิน โครงการให้ชุมชนตามเกาะต่างๆ มีกระเเสไฟฟ้าเช่นเดียวกับคนที่อยู่แผ่นดินใหญ่ โดยการเดินสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะต่างๆ ปัจจุบันเราทำแล้ว 26 เกาะก็ยังทำเกาะอื่นๆ เพิ่มขึ้นไป นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับบ้านที่เกิดขึ้นใหม่ทั่วประเทศ โครงการขยายเขตไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่ ห่างไกลจากระบบจำหน่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะทำให้ชุมชนเกิดขึ้นใหม่นี้มีกระแสไฟฟ้าใช้

“สว่างทั่วทิศ สร้างคุณภาพชีวิตทั่วไทย” Brightness for Life Quality


โครงการที่จะบริหารจัดการเรื่อง Disruptive Technology คือเทคโนโลยีที่จะมาทำลายล้างของเก่าๆ สร้างสิ่งใหม่ๆ

1. Electrification เป็นรูปของไฟฟ้า อุปกรณ์มากมายเริ่มหันมาใช้ไฟฟ้ามากขึ้น รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ต้นทุนที่ถูกกว่า ค่าการใช้เฉลี่ยต่อกิโลเมตร คือ กิโลเมตรละ 0.50 สตางค์ เทียบกับรถปัจจุบัน ICE (Internal Combustion Engine) เติมน้ำมันเฉลี่ย 2-3 บาท ประกอบกับรถ EV Car ไม่มีเครื่องยนต์ มีแต่เเบตเตอรี-มอเตอร์ การบำรุงรักษาง่าย ค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่า คนก็จะหันมาใช้มากขึ้น ความต้องการใช้ไฟฟ้าก็จะเพิ่มขึ้น เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ไฟในแง่ของมีต้นทุนการใช้การคมนาคมที่สูงขึ้น

2. โอกาสของผู้ใช้ไฟในอนาคต ผลิตไฟฟ้าใช้เอง Decentralization (ผลิตไฟใช้เองในบ้าน) แผงโซลาร์ราคาถูกลงค่อนข้างมาก ถ้าเราสามารถติดตั้ง Solar Rooftop บนหลังคาก็จะผลิตไฟใช้เองภายในบ้านได้ กลางวันถ้าไม่อยู่บ้านยังขายในระบบได้ด้วย ซึ่งรัฐบาลมีโครงการทดลอง 100 เมกะวัตต์ทั่วประเทศในเขตความรับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 70 เมกะวัตต์ การจัดการระบบไฟฟ้าในอนาคตเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง จึงมีโครงการ Smart Grid รองรับเทคโนโลยีในอนาคต 

ส่วนการนำสายไฟลงใต้ดิน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขอเป็นเจ้าภาพ เพราะสายสื่อสารเป็นปัญหากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมานาน เสาไฟฟ้าไม่ได้ถูกออกแบบไว้รับสายสื่อสารปริมาณมากขนาดนั้น ออกแบบเพื่อรับสายไฟ 6-7 เส้น ที่เหลือมีสายสื่อสารเป็นร้อยๆ เส้น มีปัญหาเสาล้มง่าย มีผู้เสียชีวิต เกิดเหตุเพลิงไหม้ จึงเชิญ Operator ทั้ง 14 รายคุยเเนวทางจัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขอเป็นเจ้าภาพเอาลงเองทั้งหมด คิดค่าใช้จ่ายจากทั้ง 14 ราย วางเป้าหมายกลางปีหน้า มิ.ย. 2563 สายสื่อสารรกรุงรังเยอะๆ สายตาย ไม่ได้ใช้งานเเล้วต้องถูกเอาลงให้หมด ถูกจัดระเบียบใหม่ ไม่รกรุงรังอีกต่อไป จัดการพร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 25 ก.ย.2562 ใช้เวลา 8 เดือน กลางปีหน้าระบบสายสื่อสารในเขตรับผิดชอบการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีความยาวอยู่ 9,000 กิโลเมตร ต้องถูกจัดระเบียบให้เเล้วเสร็จภายในกลางปีหน้า 74 จังหวัด ทั่วประเทศ ยังไม่ได้ประมาณการลงทุนคาดเป็นหลักหลายพันล้านบาท 


สายเคเบิลใต้ดินเป็นสิ่งที่ดีและก็น่าทำ แต่ใช้เงินลงทุนสูงมากกว่าสายบนอากาศ 10 เท่า จะเป็นภาระต่อผู้ใช้ไฟ ค่าไฟแพงขึ้นเเน่นอน โดยจะเลือกเป็นพื้นที่ โครงเมืองหลัก เช่น เมืองธุรกิจ เมืองท่องเที่ยว อาจเป็นเชียงใหม่ โคราช ขอนแก่น สงขลา พัทยา ภูเก็ต ทำไปเยอะเเล้ว แต่มีโครงการเศรษฐกิจอีกฉบับกระทรวงมหาดไทยทำ โครงการเฉลิมพระเกียรติ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็จะสนับสนุนทำทุกจังหวัด จังหวัดละ 2 กิโลเมตร เอาสายลงดินเพื่อให้ทุกจังหวัดมีสายไฟเคเบิลใต้ดินเป็นหัวหลักของจังหวัด ทั้งนี้ ในเขตรับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทุกวันนี้ ขยายเขตไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟเเล้ว 99.97% มีผู้ใช้ไฟ 19,200,000 ราย ที่เหลืออีก 0.03% ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนไม่สามารถเข้าไปได้ เป็นเขตหวงห้ามทางราชการ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ศาลปกครองสูงสุด สั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้านบาท

22 พ.ค. – ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ความเสียหาย 10,028 ล้านบาท จากคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ ก.คลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ศาลปกครองสูงสุดนัดออกบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาคดีที่กระทรวงการคลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351 /2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717 ล้านบาท ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังเฉพาะส่วน ให้ชดใช้จำนวน 10,028 ล้านบาท และเพิกถอนคำสั่งยึดอาญัติทรัพย์สิน เพื่อขายทอดตลาด และคำสั่งอื่น โดยเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำอุทธรณ์ฟังขึ้นบางส่วน ศาลพิจารณาว่าไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในการจำนำข้าวเปลือกนาปี แต่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายการระบายข้าวโดยวิธีการขายแบบรัฐต่อรัฐหรือ จีทูจี จากความเสียหาย 20,057 ล้านบาท เพราะประมาทเลินเล่อ ก่อให้เกิดความเสียหาย และต้องกำหนดสัดส่วนรับผิด ร้อยละ 50 […]

“ยิ่งลักษณ์” ส่งทนายฟังคำพิพากษา ลุ้นชดใช้คดีจำนำข้าว

ศาลปกครอง 22 พ.ค.- “ยิ่งลักษณ์” ส่งทนายรอฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ชดใช้ 3.5 หมื่นล้านบาท คดีจำนำข้าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. ศาลปกครองสูงสุดเตรียมออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ในคดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท ในคดีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย บรรยากาศที่ศาลปกครอง ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน. ทุ่งสองห้องราว 20 นาย มารักษาความสงบเรียบร้อย […]

ปรับแผนช่วยคนงานตกหลุมลึก 19 เมตร – 4 วันยังไม่ถึงครึ่งทาง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เตรียมปรับแผนการค้นหานำร่างคนงานขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตร หลัง 4 วัน ยังขุดลงไปไม่ถึงครึ่งทาง ผ่านไปแล้ว 4 วัน สำหรับการค้นหานำร่างคนงานที่ตกลงไปในหลุมโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 8 ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่องแบบ 24 ชั่วโมง มีรายงานว่า ขณะนี้ขุดลงไปได้ประมาณ 7 เมตร จากความลึกของหลุม 19 เมตร ยังไม่พบร่างของผู้สูญหายแต่อย่างใด อุปสรรคสำคัญคือเสาเข็มปูนขนาดใหญ่ที่ขวางอยู่ในหลุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการประชุมหารือปรับแผนการช่วยเหลือกันอีกครั้ง หลังจากวางแผ่นชีสไพล์แล้ว แต่ยังไม่มั่นใจ 100% ว่าแผนนี้จะป้องกันไม่ให้ดินสไลด์ลงไปทับคนงานที่กำลังลงไปช่วยหรือไม่ โดยการทำงานจะเน้นความปลอดภัยของทุกคนเป็นหลัก ส่วนตัวเลขการขุดเจาะ เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) ทางรองผู้ว่าฯ กทม. แจ้งว่าขุดลึกไปได้แล้ว 9 เมตรนั้น ทางหน้างานขอชี้แจงว่าให้ยึดตัวเลขล่าสุดเป็นหลัก เพราะวัดจากขอบถนนและพื้นด้านล่างไม่เสมอกัน บางชุดอาจขุดลงไปได้มากกว่า แต่เป็นจุดที่ลงไปไม่ได้ ยอมรับการปฏิบัติงานครั้งนี้ยากกว่าที่คิด แต่ไม่เกินขีดความสามารถอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำทีมแถลงคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” เปิดคลิปเสียงหลักฐานเด็ด

22 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำแถลงความคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” ยักยอกเงินวัดไร่ขิง พร้อมเปิดคลิปเสียงหลักฐานเด็ด สนทนากับสีกาคนสนิท ส่วนเงินบัญชีวัดไร่ขิง และภายในมูลนิธิฯ พบว่ามีการทำธุรกรรมผิดปกติหลายรายการ และยังพบเงินกฐินถูกถอนออกไป ไม่มีการนำเข้าบัญชีวัด.-สำนักข่าวไทย