กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – “ธรรมนัส” ประกาศกวาดล้างนายทุน ไล่พ้นที่ ส.ป.ก. จัดสรรให้เกษตรกรและคนยากไร้กว่า 800,000 ราย สั่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาพื้นที่ ส.ป.ก.ทั่วประเทศ ย้ำเลขาฯ ส.ป.ก.พบการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ต้องยึดคืนหลวง ส่วนรีสอร์ตวังน้ำเขียวเป็นของ ส.ป.ก.ตามกฎหมาย
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขแนวเขตทับซ้อนของพื้นที่ ส.ป.ก. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมากับพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานที่เรื้อรังมานาน ว่า การหาข้อสรุปที่ตรงกันไม่ได้ระหว่างสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรฯ กับกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จนช่องว่างดังกล่าวนำไปสู่ปัญหานายทุนบุกรุกสร้างรีสอร์ทจำนวนมาก มีการเปลี่ยนผู้ครอบครองจากเกษตรกรไปเป็นผู้ประกอบการทำสถานที่ท่องเที่ยว
ทั้งนี้ หากอุทยานแห่งชาติทับลานดำเนินการตามข้อสั่งการของผู้ตรวจการแผ่นดินที่วินิจฉัยให้เร่งกันพื้นที่แล้วส่งคืน ส.ป.ก.ภายใน 90 วัน ก็ไม่ต้องยึดรีสอร์ทที่บุกรุกสร้างในพื้นที่ทับซ้อน โดยถือว่าสร้างในที่ดิน ส.ป.ก. จึงต้องตกเป็นของ ส.ป.ก.ตามกฎหมาย อีกทั้งมีนโยบายไม่ทุบรีสอร์ตทิ้ง แต่จะยึดคืนมาจากนายทุน แล้วจัดสรรให้ประชาชนที่มีคุณสมบัติตรงตามกฎหมาย ส.ป.ก.และขึ้นทะเบียนต่อ ส.ป.ก.จังหวัดแล้ว
นอกจากนี้ พื้นที่ ส.ป.ก.ยังประสบปัญหาชุมชนเมืองขยายตัวเข้าไป เช่น หน้ามหาวิทยาลัยพะเยาและมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จึงสั่งการให้หารายละเอียดและศึกษาข้อกฎหมายให้พร้อม อีกทั้งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. ทั่วประเทศ โดยมอบนโยบายให้นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก.ว่า ต้องยึดคืนหลวงก่อน หลังจากนั้นจึงจัดสรรให้ประชาชนรายใหม่ ส่วนพื้นที่ที่ไม่เหมาะต่อการทำการเกษตรอาจทำวิสาหกิจชุมชน ท่องเที่ยวเชิงเกษตร แต่ต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นไว้แล้วเท่านั้น
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่ ส.ป.ก.ทั่วประเทศมี 40 ล้านไร่ จัดสรรให้เกษตรกรและผู้ยากไร้เข้าทำกินแล้ว 36 ล้านไร่ เหลือ 4 ล้านไร่ ที่มีปัญหาหลายประการ ทำให้ยังรังวัดไม่ได้ จึงสั่งให้เลขาธิการ ส.ป.ก. ตรวจสอบทุกพื้นที่อย่างละเอียด พื้นที่ที่แจกเอกสารสิทธิไปแล้วให้ดูว่ามีการเปลี่ยนมือผู้ถือครองหรือไม่ พื้นที่ที่นายทุนบุกรุกมีเท่าไร หากพบการใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ให้นำมาจัดสรรให้ผู้มีคุณสมบัติตามกฎหมาย เพราะมีเกษตรกรและประชาชนยากจนไม่มีที่ดินทำกินขึ้นทะเบียนรอพื้นที่ ส.ป.ก.กว่า 800,000 ราย
“ต้องเอาชาวบ้านเป็นหลัก หากอยู่อาศัยในพื้นที่ ส.ป.ก.อยู่แล้ว ต่อมามีความเจริญเข้าไปขยายตัวเป็นชุมชน ถ้าต้องแก้กฎหมายให้เช่าได้ โดยกำลังจะให้ฝ่ายกฎหมายเร่งศึกษา ส่วนพื้นที่ที่อยู่ในมือนายทุนต้องยึดคืนกลับมาให้ชาวบ้านเท่านั้น ซึ่งต้องทำให้ได้” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
รายงานจาก ส.ป.ก. เปิดเผยว่า พื้นที่ ส.ป.ก.กว่า 4 ล้านไร่ที่ยังเข้ารังวัดจัดสรรสิทธิไม่ได้เป็นพื้นที่ที่มีปัญหาหลายอย่าง เช่น ผู้ครอบครองที่ดินขาดคุณสมบัติที่จะได้รับการจัดที่ดินจาก ส.ป.ก. หรือเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับที่ดินมีเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน ทับซ้อนกับที่สาธารณประโยชน์ ทับซ้อนกับพื้นที่นิคมสร้างตนเอง ทับซ้อนกับพื้นที่นิคมสหกรณ์ ทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ทับซ้อนกับเขตจังหวัดพื้นที่ติดกัน และเป็นที่ตั้งของหน่วยราชการ แต่ยังไม่มีการขอใช้ที่ดินกับ ส.ป.ก.ให้ถูกต้อง ที่ผ่านมาทุกหน่วยงานร่วมกันทำแผนที่ราชการแบบบูรณาการ 1 : 4000 หรือ One Map แต่ยังไม่มีการตกลงกันให้ชัดเจนระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบ หาก One Map มีผลบังคับใช้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมั่นใจว่าจะลดปัญหาต่าง ๆ ไปได้ระดับหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย
