กทม. 15 ก.พ.-“พรพจน์” อธิบดีกรมที่ดิน เผย “อนุทิน” ไม่กังวลถือครองที่ดินสนามกอล์ฟ บอก ส.ป.ก. ต้องไปถาม พม. ไม่ใช่มาถามกรมที่ดิน ตั้งนิคมสร้างตนเองทับซ้อนพื้นที่หรือไม่ ชี้เป็นเพียงหน่วยงานปลายทาง มีระเบียบขั้นตอนชัดเจน หากชาวบ้านมีหลักฐานครอบครองก่อนประกาศชัด ก็ห้ามออกโฉนดไม่ได้
นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวภายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมสนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะหารือกับอธิบดีกรมที่ดินในช่วงเย็นวานนี้ (14 ก.พ.) ถึงกรณีปัญหาที่ดินสนามกอล์ฟ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ได้มีการชี้แจงว่าที่ดินนั้นได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ได้ซื้อมือแรก เป็นการซื้อต่อชาวบ้านที่นำมาขายต่อ เป็นตามข้อมูลปกติ พร้อมยืนยันว่า นายอนุทิน ไม่ได้กังวลถึงกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด เป็นเพียงการพูดคุยว่าความเข้าใจของนายอนุทินนั้นถูกต้องหรือไม่เท่านั้น
ขณะเดียวกัน อธิบดีกรมที่ดิน ยังกล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นนิคมกว่า 1000 แปลง ที่ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. เป็นผู้จัดสรรที่ดินให้ประชาชนใช้ประโยชน์เป็นนิคมสร้างตนเองตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 ซึ่งตามขั้นตอนแล้ว เมื่อเข้าทำประโยชน์แล้ว 5 ปี สามารถเปลี่ยนเป็นที่ นค.3 ซึ่งตามประมวลกฎหมายที่ดิน สามารถเปลี่ยนเป็นที่โฉนดได้ตามระเบียบปกติ และเมื่อชาวบ้านได้ครอบครองโฉนดตามหลักเกณฑ์ คือ ห้ามขาย 5 ปี และเมื่อพ้นกำหนดก็สามารถทำการซื้อขายได้
เมื่อถามว่า ที่ดินดังกล่าวทับซ้อนกับพื้นที่ ส.ป.ก.หรือไม่ นายพรพจน์ กล่าวว่า โฉนดทั้งหมดออกจาก พม. ดังนั้น ส.ป.ก.ต้องไปถาม พม.ไม่ใช่มาถามกรมที่ดิน เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะว่าการออกโฉนดเป็นการออกจากหลักฐานของนิคมสร้างตนเองของ พม. หรือกรมประชาสงเคราะห์เก่า ส่วนจะซ้ำซ้อนหรือไม่ ส.ป.ก.ต้องไม่เคลียร์กับทาง พม.เอง ไม่ใช่กรมที่ดิน
ส่วนกรณีที่ทางคณะทำงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเชิญกรมที่ดินลงพื้นที่ไปดูที่จริงด้วยนั้น นายพรพจน์ กล่าวว่า ลงไปก็ไม่มีประโยชน์ มุมมองของตนต้องไปเอา พม.มาลง ว่าทำไมถึงไปสร้างนิคมในพื้นที่นั้น เพราะกรมที่ดินเป็นเพียงปลายทาง และมีระเบียบกฎหมายชัดเจนว่าต้องทำอะไรอย่างไร
ขณะเดียวกัน อธิบดีกรมที่ดิน ยังอธิบายว่า ที่ดิน ส.ป.ก. ไม่ว่าจะมีการประกาศเขตพื้นที่ที่ใด หากชาวบ้านครอบครองอยู่ มีหลักฐาน ว่าเข้าครองครองทำประโยชน์ เช่น สค.1 หรือไม่ กระทั่งใบจอง ส.ป.ก.ก็ไม่สามารถไปห้ามการออกโฉนดได้ หากประชาชนอยู่ก่อนที่จะปราศเขตออกเป็น พ.ร.ฎ.แนบท้ายแผนที่ปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม แต่ในทางกลับกันพื้นที่ ส.ป.ก.หากมีชาวบ้านจำนวนมากร้อง ขอให้ไปสำรวจออกโฉนดที่ดินก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งในลักาณะดังกล่าวนี้มีปัญหาอยู่ประมาณ 122 อำเภอ ที่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข.-314.-สำนักข่าวไทย