fbpx

2 กระทรวงเร่งหาทางออก One Map

กรุงเทพฯ 6 ก.ย. –  กรมป่าไม้ได้รับการประสานจาก ส.ป.ก. พร้อมเร่งแก้ปัญหา One Map ย้ำต้องเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและผู้ยากไร้ ไม่เอื้อนายทุน


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 หรือ One Map ซึ่งมีปัญหาแนวเขตทับซ้อนกันระหว่างกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกับสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ล่าสุดร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. ประสานมายังทั้ง 2 กรม เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ได้รับการประสานจากเลขาธิการ ส.ป.ก.แล้ว แต่ยังไม่ได้กำหนดวันหารือ ซึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ มอบนโยบายกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติฯ ให้นำรายละเอียดข้อกฎหมาย ลำดับเวลาการส่งมอบที่ดินให้แก่ ส.ป.ก. เพื่อจัดสรรเป็นที่ทำกินให้เกษตรกร ที่ดินแปลงที่ส่งมอบแล้วมีแปลงใดบ้าง แปลงใดอยู่ระหว่างเตรียมส่งมอบตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) แนวเขตของกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติฯ เป็นต้น มาศึกษาอย่างรอบคอบ ซึ่งทั้ง 2 กระทรวงต้องพิจารณาร่วมกันว่าจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องแนวเขตทับซ้อนได้ทางใดบ้าง 


สำหรับแนวเขตนั้น แต่ละหน่วยงานมีเส้นแนวเขตชัดเจนอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสำรวจใหม่ แต่อาจสำรวจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าครอบครองที่ดินของราษฎรว่า เข้ามาใช้ประโยชน์ตั้งแต่เมื่อไร มีการซื้อขายเปลี่ยนมือหรือไม่ ปัจจุบันใช้ที่ดินทำประโยชน์ด้านใด ซึ่งจะต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย รวมทั้งต้องเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและผู้ยากไร้ตามนโยบายของโครงการ คทช.ไม่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้กำหนดไว้ตามกฎหมายหรือนายทุน

ส่วนกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติฯ เตรียมข้อมูลทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว หากมีแนวทางที่จะแก้ไขด้วยข้อกฎหมายที่มีอยู่จะดำเนินการร่วมกัน แต่หากติดขัดเรื่องข้อกฎหมายจะต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อรัฐบาลจะได้พิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายใดหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อการอนุรักษ์พื้นที่ป่า-สัตว์ป่าและการที่ประชาชนจะได้มีที่ดินทำกินตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย