สทนช.ถกแก้วิกฤติน้ำท่วมภาคเหนือ-ตุนน้ำใช้แล้งหน้า

กรุงเทพฯ 6 ก.ย. – สทนช.ประชุมหน่วยเกี่ยวข้อง และผู้ว่า 17 จังหวัดภาคเหนือ พิจารณาแนวทางและจัดทำแผนงาน เพื่อแก้ไขและบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ภาคเหนือ ย้ำต้องทันใช้งานภายใน 1-2 เดือนนี้ เน้นเพิ่มพื้นที่เก็บน้ำที่ท่วมขังไม่สูญเปล่า-ระบายทิ้งน้อยสุด พร้อมรองรับฝนใหม่ก่อนหมดฤดู



นายสมเกียรติ  ประจำวงษ์ เลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังการหารือพิจารณาแนวทางและจัดทำแผนงานเพื่อแก้ไขและบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่  กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และสำนักงบประมาณ   ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีจากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากอุทกภัย จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดสุโขทัย โดยเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมทั้งให้บูรณาการข้อมูลแผนงานโครงการที่จำเป็นต้องดำเนินการทันทีอย่างเร่งด่วน 


ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเงื่อนไขการพิจารณาโครงการ 3 ประเด็นหลัก คือ 1.เป็นโครงการที่มีความพร้อมดำเนินการแล้วเสร็จระยะ1-2 เดือนนี้ เนื่องจากเป็นโครงการระยะสั้น มีความจำเป็นเร่งด่วน หากไม่ทำจะเกิดความเสียหายหรือได้รับผลกระทบกับประชาชนได้ รวมถึงยังเป็นโครงการที่สามารถเก็บกักน้ำในพื้นที่ที่ประสบน้ำท่วมขังขณะนี้เก็บไว้ได้ และรองรับปริมาณฝนที่จะตกลงมาเพิ่มได้ด้วย 2.โครงการต้องไม่ซ้ำซ้อนกับงบประมาณปี 2563 ที่ได้รับ และ 3.โครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ทัน เพื่อก่อหนี้ผูกพันภายในปีงบประมาณ 2562 ในเดือนกันยายนนี้ 


อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกันเบื้องต้นกรอบแนวทางครั้งนี้แล้ว ทุกหน่วยงานจะกลับไปพิจารณาแผนงานโครงการที่จะเสนอมาอีกครั้ง โดยแต่ละโครงการหน่วยงานต้องแจ้งจังหวัดในพื้นที่รับทราบด้วย และให้กระทรวงมหาดไทยประสาน ตรวจสอบ จากนั้น สทนช.จะนำผลสรุปแผนงานโครงการและวงเงินงบประมาณที่ได้หารือร่วมกันแล้วจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง เสนอพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พิจารณาภายในวันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2562 ก่อนเสนอสำนักงบประมาณพิจารณากลั่นกรองเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ เพื่อให้ทันระยะเวลาการก่อหนี้ผูกผันในปีงบประมาณ 2562 ตามลำดับขั้นตอนโดยเร่งด่วนต่อไป

สำหรับแผนงานโครงการเร่งด่วนที่หน่วยงานนำเสนอ อาทิ การจัดทำแก้มลิง ฝาย การปรับปรุงซ่อมแซมคันกั้นน้ำ พนังกั้นน้ำ ประตูระบายน้ำที่ได้รับผลกระทบจากพายุ โดยกรมชลประทาน น้ำบาดาลเพื่อการเกษตร น้ำบาดาลเพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุน โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล การขุดลอกสระ คลอง ห้วย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น