กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – กรมชลฯ เผยพายุโพดุล ส่งผลดีน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้น เร่งเก็บกักไว้ใช้ฤดูแล้งปีหน้า
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากอิทธิพลของพายุโพดุลที่เคลื่อนตัวเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม ทำให้ฝนตกหนักหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลดีช่วยให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนหลายแห่งเพิ่มขึ้น เช่น เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก จากที่มีน้ำในอ่าง 4,930 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 37 ของความจุอ่าง ล่าสุดมีน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่ม 82.66 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ จากที่มีน้ำในอ่าง 4,764 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 50 ของความจุอ่าง ล่าสุดมีน้ำไหลเข้าอ่าง 98.14 ล้าน ลบ.ม.
เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก จากที่มีน้ำในอ่าง 254 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่าง ล่าสุดมีน้ำไหลเข้าอ่าง 16.28 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ จากที่มีน้ำในอ่าง 887 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่าง ล่าสุดมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง 69.20 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น จากที่มีน้ำในอ่าง 549 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 23 ของความจุอ่าง ล่าสุดมีน้ำไหลเข้าอ่าง 5.82 ล้าน ลบ.ม.และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี จากที่มีน้ำ 71 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 7 ของความจุอ่าง ล่าสุดมีน้ำไหลเข้าอ่าง 18.75 ล้าน ลบ.ม.
“เขื่อนใหญ่ทั่วประเทศมีแนวโน้มที่จะมีน้ำไหลลงอ่างเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมชลประทานได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศเก็บกักน้ำไว้ในเขื่อนทุกแห่งให้ได้มากที่สุด ยกเว้นเขื่อนที่มีปริมาณน้ำเกินความจุเก็บกักหรือล้นทางระบายน้ำล้น (Spillway) ให้เร่งลดปริมาณน้ำลงให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมตามแต่ละช่วงเวลา โดยไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน สำหรับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนต่าง ๆ ระยะนี้ ส่งผลดีต่อปริมาณน้ำในเขื่อนแต่ละแห่งเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ยังมีเขื่อนหลายแห่งที่มีน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย ซึ่งจะต้องสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้าที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดต่อเนื่อง เพื่อให้ปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่เพียงพอใช้ไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า” นายทองเปลวกล่าว.-สำนักข่าวไทย