fbpx

BIG STORY : ป.ป.ท.ลุยสอบงบอาหารกลางวันโรงเรียนที่ จ.ชัยนาท ย้อนหลัง 6 ปี

ชัยนาท 30 ส.ค.-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าสอบข้อเท็จจริงปมอาหารกลางวันไม่ได้มาตรฐานที่โรงเรียนใน จ.ชัยนาท หลังครูสาวออกมาแฉ ขณะที่ ป.ป.ท. เตรียมขยายผลสอบงบอาหารกลางวันโรงเรียนแห่งนี้ย้อนหลัง 6 ปี หลังท้องถิ่นโอนงบให้โรงเรียนจัดการ

ความคืบหน้ากรณีครูอ้อม ครูอนุบาลโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อ.หันคา จ.ชัยนาท โพสต์แฉเรื่องอาหารกลางวันไม่ได้คุณภาพ ก่อนถูกปาเลือดหน้าห้องเรียน และถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการที่ สพป.ชัยนาท แต่ไม่ทันข้ามวัน มีคำสั่งให้ย้ายกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม แต่ ผอ.โรงเรียนกลับถูกย้ายไปช่วยราชการที่ สพป.ชัยนาท แทน


ขณะที่แม่ครัวที่เกี่ยวข้องกับปมอาหารกลางวันฉาว เมื่อวานไปสาบานต่อหน้าพระ ยืนยันไม่เคยทำอาหารไม่มีคุณภาพให้เด็กๆ หากทำจริงขอให้มีอันเป็นไปใน 3 วัน 7 วัน พร้อมประกาศเลิกรับทำอาหารให้โรงเรียนนี้ โดยวันนี้มาทำอาหารให้เด็กเป็นวันสุดท้าย

ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เมื่อวานลงพื้นที่พูดคุยกับเด็กๆ ผู้ปกครอง ผู้บริหารโรงเรียน รวมถึงนางสาวลออ วิลัย ผอ.สพป.ชัยนาท คนเซ็นคำสั่งย้ายครูอ้อม และ ผอ.โรงเรียน และเตรียมร้องกระทรวงศึกษาเข้าตรวจสอบกรณี ผอ.สพป.ชัยนาท ย้ายครูอ้อม เพราะมองว่าไม่เป็นธรรม  

ส่วนวันนี้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ส่งนายพุฒิพงษ์ เลิศสถิตย์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่โรงเรียนแห่งนี้ พร้อมเชิญครู และผู้เกี่ยวข้อง ซักถามปมอาหารกลางวัน ก่อนไปตรวจโรงอาหาร และสอบถามข้อมูลจากผู้ปกครองเด็ก เพื่อหาข้อเท็จจริง

นายพุฒิพงษ์ ยอมรับวันนี้เป็นการลงพื้นที่เป็นครั้งแรก ยังดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังไม่ครบ แต่เบื้องต้นจะขอดูงบประมาณของ อปท. ที่มีการโอนลงมาให้โรงเรียนดำเนินการว่าโอนมาตั้งแต่เมื่อไร ซึ่งอาจตรวจสอบย้อนหลังไป 5-6 ปี เพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจน  


ขณะที่ ป.ป.ช. ชัยนาท เตรียมเริ่มกระบวนตรวจสอบอาหารกลางวันโรงเรียนแห่งนี้ หลังมีผู้เข้าให้ข้อมูลแล้วบางส่วน โดยนายสนธยา รักษาวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีพยานหลักฐานเอกสารพร้อมนำไปสู่การตรวจสอบ ข้อมูลที่ได้มาค่อนข้างชัดว่ามีบางเรื่องไม่ถูกต้อง แต่รายละเอียดยังไม่ขอเปิดเผย คาด 30 วัน เห็นภาพชัดว่ามีการทุจริตจริงหรือไม่

ส่วนความเคลื่อนไหวที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท อำเภอเมืองชัยนาท วันนี้คณะผู้บริหารโรงเรียน ครูอาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด สพป.ชัยนาท จำนวน 165 แห่ง ได้เข้ามอบดอกไม้ให้กำลังใจนางสาวลออ วิลัย ผอ.สพป.ชัยนาท หลังถูกโซเชียลถล่มเพราะเซ็นคำสั่งย้ายครูอ้อม คณะผู้บริหารโรงเรียนยืนยันตลอด 2 ปีที่นางสาวลออมาทำหน้าที่ ผอ.สพป.ชัยนาท ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม เน้นย้ำให้โรงเรียนในสังกัดทุกแห่งดำเนินการในเรื่องอาหารกลางวันให้ถูกต้องอยู่เสมอ รวมทั้งเรื่องการบริหารงานภายในโรงเรียนให้มีความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล

ด้านนางสาวลออ วิลัย ผอ.สพป.ชัยนาท ขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจ พร้อมยืนยันได้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทที่ได้รับมอบหมายและเต็มกำลังความสามารถ ส่วนเรื่องภายในโรงเรียนวัดวงเดือนที่มีเหตุปาเลือดหมูสด และเรื่องอาหารกลางวัน ยืนยันครู 6 คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยังคงทำหน้าที่สอนหนังสือตามปกติ แม้ 4 คน ยื่นหนังสือขอลาออก และขอย้ายออก และครู 1 คนป่วยเพราะความเครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาล

นอกจากนี้เรื่องที่แม่ครัวคนเก่าลาออก ไม่รับทำอาหารให้โรงเรียน นางอารีย์ ทัพรังษี รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียน บอกว่า วันนี้โรงเรียนได้รับคนในหมู่บ้านมาทำหน้าที่แทนแล้ว โดยจ้างเหมาวันละ 2,080 บาท ทำอาหารให้เด็กนักเรียน 104 คน.-สำนักข่าวไทย  


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ย้ายกลับ! ครูสาวไปสอนที่เดิม เด้ง ผอ.โรงเรียนแทน
“อัจฉริยะ” ลงพื้นที่โรงเรียนเกิดเหตุปาเลือดหมู
ครูสาวถูกปาเลือดหมูกลับมาสอนเด็กตามปกติ ขอบคุณทุกกำลังใจ
ครู-บุคลากรทางการศึกษารวมตัวให้กำลังใจ ผอ.สพป.ชัยนาท

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553