เตรียมเสนอศาลอนุมัติหมายจับ2คนร้ายร่วมปล้นห้างทอง อ.นาทวี สงขลา

กรุงเทพฯ 29 ส.ค.- ชัดแล้ว 2 คนร้ายร่วมปล้นห้างทอง”สุธาดา”ใน อ.นาทวี จ.สงขลา เตรียมเสนอศาลอนุมัติหมายจับ


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี ปล้นร้านทอง บริเวณตลาดทวี อ.นาทวี ในพื้นที่ สภ.นาทวี จว.สงขลา หลังได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ว่า จากสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งการสอบสวนพยานบุคคล , ผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุ , ผลการตรวจ DNA และหลักฐานอื่นๆมาประกอบ จนสามารถระบุตัวคนร้ายได้แล้ว 2 คน และรู้ตัวว่าคนร้ายเป็นใคร เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน จากข้อมูลพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์

สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นกลุ่มใหญ่ที่เคยก่อเหตุในพื้นที่หลายคดี นอกเหนือจากคนร้ายที่เป็นกลุ่มพื้นที่นาทวี สะบ้าย้อย จ.สงขลาแล้ว ยังมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ อ.หนองจิก อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ด้วย โดยขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับ


ในส่วนทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายไปนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้ทางเจ้าของร้านทอง ตรวจสอบโดยละเอียด เปรียบเทียบกับบัญชีทองคำรูปพรรณและทองคำแท่งที่ถูกปล้นไป พบว่ามีน้ำหนักประมาณ 2,000 บาท หรือมูลค่ากว่า 49,000,000 บาท

รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ได้เร่งกันทำงานตลอดเวลา เพื่อพิสูจน์ทราบถึงตัวคนร้ายที่ก่อเหตุรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและดำเนินคดีตามกฎหมาน

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งสืบสวน ติดตาม จับกุม กลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับมา ประกอบกับได้เน้นย้ำและกำชับ ทุกกองบัญชาการ ในมาตรการป้องกันอาชญากรรม เพื่อไม่ให้มีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้น โดยให้มีมาตรการเพิ่มความเข้มในการออกตรวจพื้นที่สุ่มเสี่ยง จุดล่อแหลม ธนาคาร ร้อนทอง ร้านสะดวกซื้อ ต่างๆ อีกทั้งการทำประวัติบุคคลเฝ้าระวัง การประชาสัมพันธ์ถึงภัยของมิจฉาชีพให้กับประชาชน รวมถึงการป้องกันเหตุดังกล่าว


โดยหากเกิดเหตุขึ้นในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว และดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ เพื่อเยียวยาความเสียหาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว นักลงทุน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก