นนทบุรี 25 ส.ค. – รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ย้ำเร็ว ๆ นี้ เห็นโฉมร้านค้าสมาร์ทโชห่วยได้แน่ พร้อมปรับปรุงฐานข้อมูลร้านค้าทั้งระบบเพื่อเชื่อมโยงกัน เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี โอทอป แฟรนไชส์ ทำธุรกรรมผ่านอี-คอมเมิร์ซเพิ่มช่องทางขายสินค้า
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ย้ำและให้นโยบายผู้บริหารกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่มีการประชุมร่วมเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้ทุกฝ่ายภายในกรมฯจะต้องเดินหน้าเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางของรัฐบาล โดยเฉพาะพัฒนาร้านค้าปลีกรายย่อยทั่วประเทศหรือโชห่วย แม้จะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก แต่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจฐานราก แต่ละปีมีเงินหมุนเวียนภายในท้องถิ่นจำนวนมาก และเป็นธุรกิจดั้งเดิมของคนไทยมาช้านาน ดังนั้น จึงต้องสร้างความเข้มแข็งด้วยการปรับภาพลักษณ์โชห่วยดั้งเดิมสู่สมาร์ทโชห่วยให้เหมือนร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่ โดยการนำโปรแกรมซอฟต์แวร์เข้ามาบริหารจัดการร้าน การทำบัญชีให้เป็นระบบ ออกแบบตกแต่งร้าน จัดชั้นวางสินค้าให้สะดวกต่อการเลือกซื้อให้สวยงามน่าเข้ามาใช้บริการซื้อสินค้าภายในร้าน
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ต้องเข้าไปดูและเร่งปรับปรุง คือ ฐานข้อมูลจำนวนร้านค้าโชห่วยทั่วประเทศตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้านใหม่มีอยู่จริงแค่ไหน โดยต้องลงพื้นที่รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะจากเจ้าของร้านโชห่วยโดยตรง เพื่อให้ได้ข้อมูลและแนวทางแก้ไขต่าง ๆ ตรงจุด โดยเฉพาะความต้องการของแต่ละพื้นที่ หลังจากนั้นจะดึงพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาช่วยพัฒนาร้านโชห่วย ทั้งการให้ความรู้บริหารธุรกิจ สนับสนุนโปรแกรมที่ใช้ในร้านค้าและอื่น ๆ ซึ่งคาดว่าทุกด้านจะมีความสมบูรณ์และเรียบร้อยได้ในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้น อีกไม่นานจะได้เห็นต้นแบบของร้านสมาร์ทโชห่วยในพื้นที่ต่าง ๆ ได้แน่นอน
นอกจากนี้ ยังได้ให้มอบหมายให้ผู้บริหารกรมฯ ไปจัดทำแผนแนวทางสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจสตาร์ทอัพผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ผู้ผลิตสินค้าโอทอป และแฟรนไชส์ โดยให้ช่วยผลักดันใช้กลไกด้าน Digital Economy , Bio Economy , Green Economy , Sharing Economy และ Creative Economy โดยให้ธุรกิจเหล่านี้ก้าวสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ เพื่อให้เติบโตแบบยั่งยืนผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซ
จะเป็นเครื่องมือสร้างและขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และยังเพิ่มศักยภาพให้เอสเอ็มอีแข่งขันการตลาดมากขึ้น พร้อมยกระดับธุรกิจบริการไทยให้มีมาตรฐานสากล เช่น สปา ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ และร้านอาหารไทย ซึ่งแต่ละปีธุรกิจด้านนี้มูลค่าสูงอย่างต่อเนื่องนำรายได้เข้าประเทศมหาศาลตลอดจนสร้างการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจที่เน้นการสร้างพันธมิตรทางการค้า เพื่อทำให้ภาคธุรกิจมีความเข้มแข็งและแข่งขันได้เพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย