กรุงเทพ 18ส.ค.-นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ฝ่าวิกฤติภัยแล้งสุรินทร์-บุรีรัมย์
กำชับเร่งเพิ่มปริมาณน้ำระยะสั้น-ยาว พร้อมช่วยเหลือประชาชน
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งล่าสุดที่ จ.สุรินทร์และบุรีรัมย์ว่า พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
จะลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.62)
โดยอ่างเก็บน้ำสำคัญของ จ.สุรินทร์ คือ อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง และอ่างเก็บน้ำอำปึล
ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำดิบผลิตประปา มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย
แต่ยังคงต้องเฝ้าระวัง โดยอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง มีปริมาณน้ำ 9.86% ของความจุ
และอ่างเก็บน้ำอำปึล มีปริมาณน้ำ 1.09% ของความจุ บางพื้นที่ยังมีปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค
รวมพื้นที่ประสบภัย 2 อำเภอ คือ อ.เมืองสุรินทร์ และ อ.สำโรงทาบ 31 ตำบล 308
หมู่บ้าน 150,995 ไร่ ส่วนที่จ.บุรีรัมย์ มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำสำคัญ คือ
อ่างเก็บน้ำห้วยตลาดและอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มากรวม 1.438 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาในระยะต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปแก้ไขปัญหาเร่งด่วน
โดยเฉพาะการขุดร่องชักน้ำเข้าสู่หัวสูบประปา
และสูบน้ำบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำให้สามารถผลิตน้ำประปาได้
ขุดเจาะบ่อบาดาลเพิ่มปริมาณน้ำ เร่งปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำในอ่าง
ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเป็นลำดับ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะไปตรวจติดตามปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงาน
โดยกำชับเรื่องแผนระยะกลางและระยะยาวเพื่อความยั่งยืน เช่น
การเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำทุกแห่ง โครงการผันน้ำจากแหล่งที่มีศักยภาพสูงกว่า
การตั้งสถานีผลิตน้ำประปาในจุดที่มีแหล่งน้ำเพียงพอเพื่อเสริมความมั่นคงด้านน้ำประปา
เป็นต้น
พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเตรียมการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะเกษตรกรให้ดีที่สุดด้วย. สำนักข่าวไทย