“ไต้หวัน”ปรับตัวรับ”สงครามการค้า”

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. –“สงครามการค้า” ส่งผลนักลงทุนไต้หวันย้านฐานทั้งกลับประเทศ และมุ่งสู่ใต้ “อาเซียน-เอเชียใต้” ในขณะที่นโยบายปฎิรูปพลังงาน ขยายฐานพลังงานทดแทนก็ดึงดูดนักลงทุนไทยเข้าไปหาโอกาสลงทุนในไต้หวัน


กรุงเทพฯ 17 ส.ค. –“สงครามการค้า” ส่งผลนักลงทุนไต้หวันย้านฐานทั้งกลับประเทศ และมุ่งสู่ใต้ “อาเซียน-เอเชียใต้” ในขณะที่นโยบายปฎิรูปพลังงาน ขยายฐานพลังงานทดแทนก็ดึงดูดนักลงทุนไทยเข้าไปหาโอกาสลงทุนในไต้หวัน

ปัญหาสงครามการค้า”สหรัฐ-จีน” ที่มีการตั้งเก็บภาษีซึ่งกันและกันหลายระลอก ส่งผลให้นักลงทุนมีการเคลื่อนย้ายจากจีนไปประเทศอื่นๆมากยิ่งขึ้น ในส่วนของนักลงทุนไต้หวันก็เช่นกันมีการย้ายฐานทั้งกลับประเทศไต้หวัน และมองพื้นที่การลงทุนเข้ามาในอาเซียนและเอเชียใต้ ตาม”นโยบาย มุ่งใต้ไหม่”ของรัฐบาลไทเป ที่ประกาศได้ตั้งแต่ 16 สิงหาคม 2559 และเพื่อรองรับผลกระทบไต้หวันได้ผลักดันงบประมาณ ในปี 2562 เกินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน เป็นครั้งแรก มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งนโยบาย ปฏิรูปพลังงาน ภายใต้ นโยบายพลังงานสีเขียว (Green Policy) ผลักดันการใช้พลังงานทดแทน ให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ของการใช้พลังงานทั้งหมด ภายใน 8 ปี(2561-2568 ) โดยเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการบริหารจัดการน้ำและพลังงานสีเขียวให้สมบูรณ์แบบและผลักดันโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคเพื่ออนาคต มูลค่ารวมกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน


นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ จีพีเอสซี เปิดเผยว่า ไต้หวันเป็นหนึ่งในประเทศที่จีพีเอสซีให้ความสนใจศึกษาเพื่อเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะพลังงานทดแทน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของ กลุ่ม ปตท.ที่ต้องการลงทุนพลังงานสะอาดถึง 8 พันเมกะวัตต์ ภายในปี 2573 ซึ่งคงต้องเข้าไปศึกษากฏระเบียบเป็นอย่างไร และเปิดรับนักลงทุนอย่างไรบ้าง โดยตามแผนของไต้หวันมีการส่งเสริมพลังงานทดแทนที่หลากหลาย เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม เป็นต้น

ด้านสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมแห่งไต้หวัน (Industrail Technology Research Institute ;ITRI ) ระบุว่า ตามแผนงานของไต้หวันจะเพิ่มพลังงานทดแทน เป็นร้อยละ 20 ของการใช้พลังงานทั้งหมดในปี 2568 เพิ่มขึ้นจากปี 2561ที่ 6420 เมกะวัตต์ เป็น  30,161 เมกะวัตต์ ซึ่งมีการอุดหนุนในรูปแบบ FIT แตกต่างกันไป เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ อุดหนุน มากกว่า 4 ดอลลาร์ไต้หวัน/หน่วย  ปลายแผนงานจะมีรวม 2 หมื่นเมกะวัตต์ พลังงานลมอุดหนุนประมาณ  3 ดอลลาร์ไต้หวันต่อหน่วย มีรวม 6,938 เมกะวัตต์ เป็นรูปแบบพลังงานลมบนบกและในทะเล รวมทั้งมีพลังงานอื่นๆ อีกด้วย ในขณะที่ITRI มีการพัฒนางานวิจัยและพัฒนา ในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และมีการขายเทคโนโลยี ทั่วโลกหนึ่งในเทคโนโลยี การกักเก็บพลังงาน (ENERGY Storage ) ก็มีบริษัทของไทย บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ หรืออีเอ ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ในการนำมาใช้กับรถยนต์อีวี ที่อีเอกำลังพัฒนา

นายเฉินหรงจิน   (Jong-Chin Shen )รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจแห่งไต้หวัน กล่าวว่าปัญหาสงครามการค้าทำให้นักลงทุนไต้หวันย้านฐานเป็นจำนวนมาก เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบต่างในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นสินค้าไฮเอนด์ ทางรัฐบาลให้ความสำคัญกำหนดแผนช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านต่างๆ โดยเฉพาะ”นโยบายมุ่งใต้ใหม่” จะรองรับการย้ายฐานได้ดี ซึ่งประเทศหลักที่นักลงทุนไต้หวันให้ความสนใจคือประเทศไทย,ฟิลิปปินส์  ,เวียดนาม ,อินโดนีเซีย ,มาเลเซีย ,อินโดนีเซีย และอินเดีย โดยขณะนี้มีอินเดียและฟิลิปปินส์เสนอแผนตอบรับจูงใจการลงทุนมาแล้ว โดยในส่วนของไทย ทางไต้หวันก็ต้องการเห็นแผนงานตอบรับที่ดี  โดยสิ่งที่นักลงทุนไต้หวันต้องการมากที่สุดคือ เมื่อเข้าไปลงทุนแล้วจะมีอะไรการันตี หรือรับรองได้ว่าเงินลงทุนจะไม่สูญเสีย 


“การย้ายฐานของนักลงทุนไต้หวันจากปัญหาเทรดวอร์ มีมูลค่านับแสนล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าด้านอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ก็หวังว่าทางไทยจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้ผ่านไป โดยหากไทยการันตีด้านทรัพย์สินการลงทุน Cash Flow หรือมีสิทธิประโยชน์ที่ดี มีนิคมอุตสาหกรรมรองรับที่พร้อม ทางนักลงทุนก็จะนำมาพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมาเราทราบเรื่องอีอีซีของไทยบ้าง แต่ก็อยากดูเรื่องการการันตี โดยขณะนี้ทางอินเดียและฟิลิปปินส์ได้มีการอัพเดตข้อมูลมาแล้ว”นายเฉินหรงจินกล่าว 

นายมงคล สุขเกษมไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทไวร์มาสแตอร์อินดัสตรี้ (ไทยแลนด์ ) กล่าวว่า ในขณะนี้ทางบริษัทได้ขยายกิจการเข้าไปซื้อกิจการนิคมอุตสาหกรรมยามาโตะ  ตำบลหนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี พื้นที่ 690ไร่ ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ให้เป็นเขตส่งเสริมอีอีซี เป็นนิคมฯรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต  อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่นๆ  โดยใช้เงินลงทุนแล้ว 2 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากการเข้าซื้อกิจการก็จะมีการขอเสนอปรับผังพื้นที่มาสเตอร์แพลนด์ จากผังของรายเดิม จึงต้องขออนุญาต กนอ.อีกรอบ ก่อนที่จะเข้าไปพัฒนาระบบสาธารณูปโภคทั้งหมด คาดจะแบ่งพื้นที่เป็นกว่า 40 แปลง รวม 500 ไร่ ซึ่งมั่นใจว่าจากการที่รัฐบาลไทยส่งเสริมอีอีซี และปัญหา”เทรดวอร์” ประกอบกับบริษัทมีแผนจะโปรโมทโดยสร้างโรงงานรองรับนักลงทุนอย่างรวดเร็วภายใน 90 วัน จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นมาตรการที่จูงใจให้ขายพื้นที่นิคมฯได้อย่างรวดเร็ว -สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น