ทิศทางทีวีดิจิทัลหลัง 7 ช่องทยอยจอดำ


กรุงเทพฯ  ศูนย์ ข้อมูลเศรษฐกิจ EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์  ทิศทางทีวีดิจิทัลไทยหลัง 7 ช่องทยอยจอดำ โดยชี้ว่าระยะสั้น ส่งผลบวก เล็กน้อย ขณะที่ ผู้ประกอบการที่เหลืออยู่ยังคงต้องเผชิญกับแรงกดดันต่อเนื่องจากรายได้โฆษณาที่ลดลง 

หลังจากที่สำนักงาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดทางเยียวยาอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาและมีผู้ประกอบการตัดสินใจคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัลรวมทั้งหมด 7 ช่อง ได้แก่ Spring 26 (NOW 26 เดิม), Spring News, Bright 20, Voice TV, MCOT Family, CH 3 Family และ CH 3 SD ในวันที่ 16 สิงหาคม 2019 ช่อง Spring 26, Spring News และ Bright TV เป็น 3 ช่องแรกที่นำร่องยุติการออกอากาศ ขณะที่อีก 4 ช่องจะทยอยจอดำในเดือนกันยายนและตุลาคมนี้


 อีไอซีประเมินว่า การคืนใบอนุญาตของทั้ง 7 ช่องจะส่งผลบวกต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลเพียงเล็กน้อย เนื่องจากรายได้จากการโฆษณาของทีวีดิจิทัลทั้ง 7 ช่องในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมามีสัดส่วนเฉลี่ยต่ำกว่า ร้อยละ5 ของมูลค่าโฆษณาทางทีวีทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นภาวะเศรษฐกิจภายในและภายนอกประเทศที่ผันผวนในช่วงของปี2562 รวมถึงการปรับราคาโฆษณาทีวีสูงขึ้นกว่าร้อยละ 4 ส่งผลให้บริษัทห้างร้านและเจ้าของผลิตภัณฑ์ชะลอการลงเม็ดเงินโฆษณาออกไป โดย Nielsen ประเมินว่าเม็ดเงินในการโฆษณาทางทีวีในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 มีการปรับลดลงราวร้อยละ 1 มาอยู่ที่ราว 3.3 หมื่นล้านบาท 

ในระยะกลาง อีไอซี ประเมินว่า ผู้ประกอบการที่เหลืออยู่สามารถสร้างรายได้และผลกำไรที่ดีขึ้นจากเม็ดเงินโฆษณาจากกลุ่มทีวีโฮมชอปปิงที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและการปรับกลยุทธ์ ในปี 2561 กลุ่มธุรกิจทีวีโฮมชอปปิง เช่น TV Direct, Sanook Shopping, O Shopping มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงโฆษณาจากแบบช่วงเวลาเป็นการโฆษณาขายสินค้าตลอดทั้งวัน ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาของธุรกิจทีวีโฮมชอปปิงเหล่านี้ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2.5 พันล้านบาทต่อปี เม็ดเงินเหล่านี้ได้กลายเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของช่องทีวีดิจิทัล รวมถึงจำนวนผู้ประกอบการทีวีโฮมชอปปิงหน้าใหม่จำนวนมากที่แข่งขันกันทำตลาดส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาสื่อทีวีมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

 นอกจากนี้ ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลส่วนใหญ่ต่างมีแผนปรับกลยุทธ์ซื้อคอนเทนท์ใหม่ ๆ จากผู้ผลิตทั้งในและต่างประเทศเพื่อชิงเรทติ้งผู้ชมและเม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้นราว ร้อยละ30 คิดเป็นเงินลงทุนกว่า 8 พันล้านบาทในปี 2562 แทนการผลิตคอนเทนท์เองที่มีต้นทุนสูงกว่า ทำให้มีรายจ่ายที่ลดลงและมีผลกำไรที่ดีขึ้น รวมทั้งมีการปรับสัดส่วนโครงสร้างธุรกิจโดยขยายช่องทางการรับชมผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้นสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้และต่อยอดในการทำธุรกิจในอนาคต  -สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย