นนทบุรี 16 ส.ค. – พาณิชย์ส่งทีมตรวจเช็คโรงพยาบาลเอกชน ตั้งจุด QR Code วันแรก ชี้ทุกโรงพยาบาลต้องตั้งจุดให้ประชาชนเห็นชัดเจน
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า วันที่ 16 สิงหาคมนี้ ถือเป็นวันแรกที่กรมการค้าภายในเริ่มนำข้อมูลที่ได้มาจัดทำ QR Code แสดงราคายา โดยตั้งแต่เช้าให้ทีมออกตรวจสอบตามโรงพยาบาลเอกชนต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ คาดว่าเจ้าหน้าที่พาณิชย์และค้าภายในจังหวัดจะมีการรายงานผลการใช้บริการของประชาชนกลับมาให้กรมฯ ทราบว่ามีจริงมากน้อยแค่ไหน และอะไรยังติดขัดต่อการใช้บริการเช็คราคายาและอื่น ๆ ผ่าน QR Codeบ้าง เพื่อจะได้นำผลมาวิเคราะห์ปรับปรุง ซึ่งตามข้อตกลงร่วมกันของโรงพยาบาลเอกชนจะต้องติดตั้ง QR Code จุดที่จะให้ประชาชนมาใช้บริการตรวจเช็ค ได้แก่ จุดจ่ายเงิน จุดจ่ายยา จุดประชาสัมพันธ์ และจุดที่เหมาะสมอย่างน้อย 3-4 จุดขึ้นไป เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงตรวจเช็ค QR Code แต่หากโรงพยาบาลเอกชนไหนจะติดเพิ่มมากกว่านี้จะทำให้ผู้เข้ามาใช้บริการตรวจคิวอาร์โคด์ได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การนำข้อมูลที่ได้มาจัดทำ QR Code แสดงราคายา เพื่อให้แต่ละโรงพยาบาลไปแสดงให้ประชาชนตรวจสอบและเปรียบเทียบราคายา เพื่อการตัดสินใจรักษาพยาบาล รวมทั้งยังสามารถตรวจเช็คและคำนวณเส้นทาง ระยะทาง ของแต่ละโรงพยาบาลได้ชัดเจนมากขึ้น และช่วงบ่ายวันนี้ได้สั่งการให้นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ไปตรวจโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดชลบุรีสัก 2-3 โรงพยาบาล เพื่อดูว่าแต่ละโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดชลบุรีมีการติดตั้งจุด QR Code มากน้อยแค่ไหนและหากเห็นว่าโรงพยาบาลใดติดตั้งจุดให้บริการ QR Code ไม่เหมาะสม เช่น จุดที่จอดรถหรือจุดที่คนไม่เห็นชัดเจนก็จะให้มีการปรับพื้นที่ให้บริการ QR Code ใหม่ ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป ประชาชนสามารถตรวจ QR Code ราคายาได้แล้ว และยังสามารถตรวจผ่านเว็บไซต์กรมการค้าภายใน www.dit.go.th ได้อีกทางหนึ่ง เบื้องต้นระบบค้นหาและเปรียบเทียบราคายาผ่าน QR CODE สามารถรองรับผู้เข้าใช้งานพร้อมกันได้ประมาณ 100,000 ราย
ส่วนความคืบหน้า 37 โรงพยาบาลเอกชนที่ยังแจ้งข้อมูลราคาให้กรมการค้าภายในทราบและหมดเวลาเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ขณะนี้หลายโรงพยาบาลส่งข้อมูลและถูกปรับวันละ 2,000 บาทแล้ว จาก 37 รายขณะนี้เหลือไม่ถึง 15-20 ราย และอยู่ระหว่างจัดทำเพื่อเร่งส่งข้อมูลให้กรมฯ ได้รับทราบ หากยังไม่ยอมส่งข้อมูลกลับมาให้กรมฯ ทราบขั้นตอนต่อไปจะส่งให้อัยการสั่งฟ้องดำเนินคดีทางกฎหมาย นอกจากนี้ กรมฯ เตรียมจะเพิ่มรายการเวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ ซึ่งยังไม่มีรหัสมาตรฐาน แต่จะคัดเลือกรายการเวชภัณฑ์และค่าบริการที่ประชาชนใช้ประจำของแต่ละโรงพยาบาลมาแสดงให้ประชาชนทราบก่อน คาดว่าจะเสร็จภายใน 3 เดือน และในอนาคตเมื่อค่ายา ค่าเวชภัณฑ์และค่าบริการรักษาพยาบาลเอกชนมีความชัดเจนขึ้น กรมการค้าภายในจะออกประกาศแจ้งราคากลาง เพื่อให้ประชาชนที่เข้ามารับบริการได้ทราบหากจะบวกราคาอะไรเข้าไปจะต้องมีอัตรามากน้อยแค่ไหนและจะเป็นข้อมูลที่มีความโปร่งใสและเป็นธรรมมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย