บุรีรัมย์ 15 ส.ค.- สำนึกผิด! สาววัย 16 กลับบุรีรัมย์กราบขอขมาแม่ถูกลูกเขยฟ้องกล่าวหายักยอกเงินหวย 12 ล้านบาท ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกเรื่องเท็จ แต่ไม่กล้าบอก สารภาพไม่เคยซื้อลอตเตอรี่เลย สุดซึ้งคำแม่พูด “ให้อภัยลูกเสมอ แม้ทุกข์ใจนานนับปี” ส่วนคดีศาลพิพากษายกฟ้องเมื่อ ส.ค.61
กรณีนางมานิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ถูกนายเอ ลูกเขยวัย 16 ปี แจ้งความตำรวจ สภ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อเดือนเมษายน 2561 กล่าวหาว่ายักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาลถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 เม.ย. 2561 เป็นเงิน 12 ล้านบาท หลังจากนำมาฝากไว้และถูกนำไปขึ้นเงินรางวัล นอกจากนี้ นายเอ ยังว่าจ้างทนายความยื่นฟ้องศาลจังหวัดนางรองเพื่อเอาผิดนางมานิตย์ กับพวกอีก 2 คน ต่อมาเดือนสิงหาคม 2561 ศาลชั้นต้นมีความเห็นยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โดยศาลได้วินิจฉัยว่า เป็นเพียงแค่พยานบุคคล และพยานบอกเล่า ไม่มีวัตถุพยาน หรือพยานเอกสารมายืนยัน ว่าจำเลยกระทำผิดจริง ประกอบกับพยานเอกสารจากกองสลากก็ไม่ปรากฏชื่อโจทก์ ที่สลักไว้หลังสลาก และไม่ปรากฏชื่อของจำเลย หรือญาติของจำเลยไปขึ้นเงิน ศาลจึงมีคำพิพากษายกคำร้องโจทก์ในชั้นไต่สวน และจากการตรวจสอบข้อมูลจากกองสลากฯ พบว่าผู้ที่ถูกรางวัลที่ 1 ชุดดังกล่าวที่ไปขึ้นเงินกับกองสลากฯ อยู่ที่ จ.ลำปาง และไม่เกี่ยวข้องอะไรกับบุคคลทั้ง 3 ที่ถูกกล่าวหานั้น
ล่าสุด น.ส.อิ๋ว อายุ 16 ปี ภรรยาของนายเอ ลูกสาวของนางมานิตย์ ก็ได้เดินทางกลับมาอยู่กับแม่ที่ จ.บุรีรัมย์แล้ว พร้อมกราบขอโทษแม่ เนื่องจากสำนึกผิดกับสิ่งที่กระทำลงไป โดยสารภาพว่าทั้งตัวเองและสามีไม่เคยถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ตามที่อ้าง และไม่ได้ซื้อเลย เรื่องราวที่เกิดขึ้นสามีเป็นคนกุเรื่อง ตอนนั้นอาศัยอยู่ที่บ้านสามีจำเป็นต้องคล้อยตาม ทั้งที่รู้ว่าไม่ใช่ความจริง แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะกลัวถูกทำร้ายหรือไล่ออกจากบ้าน
น.ส.อิ๋ว เล่าด้วยว่า “สงสารแม่มากแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร มาวันนี้ทนไม่ไหวแล้ว เพราะถูกสามีกับครอบครัวกดดัน จึงตัดสินใจกลับบ้านมาบอกความจริงและกราบขอโทษแม่ ที่ตัวเองมีส่วนทำให้เดือดร้อน สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก”
ด้านนางมานิตย์ กล่าวว่า ดีใจที่ลูกสาวสำนึกได้และยอมรับกับสิ่งที่ทำ แม่ให้อภัยได้เสมอ ลูกอาจคิดไม่รอบคอบ แต่ได้เตือนสติลูกขอให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนในชีวิต อย่าทำให้ใครเดือดร้อน
“ตอนแรกยอมรับว่าโกรธมาก เพราะแม่และครอบครัวต้องทุกข์ใจ ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเดินทางไปโรงพักและศาลหลายครั้ง อยากให้เรื่องจบลงเร็ว ๆ จะได้ไปทำมาหากินเป็นปกติไม่ต้องมามัวกังวลใจอยู่แบบนี้”.-สำนักข่าวไทย