กทม. 14 ส.ค. – ศาลยกฟ้อง 24 แกนนำ นปช. คดีร่วมกันก่อการร้าย เมื่อปี 53 ระบุการกระทำของจำเลยไม่เข้าข่ายก่อการร้าย
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 24 แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ อาทิ นายวีระกานต์ มุกสิพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ปลุกปั่นยั่วยุ ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง เมื่อปี 2553
ศาลพิเคราะะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่เข้าข่ายก่อการร้าย พวกเหตุร้ายแรงอื่น ไม่ปรากฏพยานหลักฐานที่ชี้ชัดว่าเป็นการกระทำของจำเลย โดยระหว่างนั้นรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และ ศอฉ. ได้ประกาศห้ามมิให้มีการชุมนุม ซึ่งหลังจากมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงแล้ว ไม่ปรากฏว่าแกนนำกลุ่ม นปช. ได้มีการจัดชุมนุมที่อื่นที่ใดอีก นอกเหนือจากสถานที่ที่มีการชุมนุมอยู่ก่อนแล้ว การกระทำของจำเลยจึงไม่ถือเป็นความผิด พิพากษายกฟ้อง
บรรยากาศก่อนเข้ารับฟังคำตัดสินของศาล นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ทุกคนเตรียมใจมาอย่างดี เพราะคดีนี้เหลือเพียงข้อกล่าวหาเดียว คือ ก่อการร้าย ซึ่งมีโทษเดียวคือประหารชีวิต ทุกคนเตรียมความพร้อมในเรื่องของกำลังใจและพร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาล
สำหรับคดีนี้ จำเลยกับพวกอีกหลายคนที่หลบหนี รวมทั้ง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ที่เสียชีวิตแล้ว ร่วมกันกระทำผิดกฎหมายด้วยการยุยงปลุกปั่นประชาชนให้เข้าร่วมชุมนุม สะสมอาวุธสงครามร้ายแรง บุกเข้าไปตามสถานที่ราชการต่างๆ ปิดถนน ก่อความวุ่นวาย และความไม่สงบในบ้านเมือง เพื่อต่อต้านรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะนั้น. – สำนักข่าวไทย