จุดจบแกนนำ นปช.บุกบ้านสี่เสาเทเวศร์

กทม. 26 มิ.ย. – คดีแกนนำและแนวร่วม นปช. บุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เมื่อปี 2550 มาถึงจุดจบในวันนี้แล้ว (26 มิ.ย.) เมื่อศาลฎีกาพิพากษาจำคุกจำเลย 5 คน โดยไม่รอลงอาญา เส้นทางการต่อสู้ในชั้นศาลเป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน


คดีบุกบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี ที่สี่เสาเทเวศร์ คดีนี้ต่อสู้กันมายาวนานกว่า 12 ปี มีการฟ้องจำเลยรวม 7 คน ตั้งแต่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 คือ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ 2 ปี 8 เดือน ส่วนนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ และนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล จำเลยที่ 4-7 ซึ่งเป็นอดีตแกนนำนปช. จำคุกคนละ 4 ปี 4 เดือน และยกฟ้องจำเลย 2 คน

ส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษจำคุกจำเลยที่ 4-7 เหลือจำคุกคนละ 4 ปี เนื่องจากจำเลยต่อสู้ฐานเป็นผู้สนับสนุนชุมนุมไม่ใช่เป็นแกนนำ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายหลายบท แต่เป็นการกระทำกรรมเดียว ศาลจึงลงโทษจำคุกคนละ 4 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง จึงลดโทษเหลือคนละ 2 ปี 8 เดือน ส่วนจำเลยที่ 1 คงโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือนเท่าเดิม ไม่รอลงอาญา และยื่นประกันตัวไปคนละ 500,000 บาท ทั้งหมดจึงยื่นฎีกาคดีต่อ      


 ชั้นศาลฎีกา นายวีระกานต์ นายณัฐวุฒิ นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง ขอกลับคำให้การเป็นรับสารภาพ ไม่ขอต่อสู้คดี ส่วนนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ยังคงให้การปฏิเสธ เพราะต่อสู้คดีว่าเป็นคนถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายในวันดังกล่าว ไม่ได้ไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ และมีหลักฐานเป็นใบรับรองแพทย์ต่อสู้คดี 

เมื่อถึงเวลานัด นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เดินทางมาที่ศาล พร้อมเปิดใจก่อนฟังคำพิพากษา น้อมรับคำพิพากษาของศาลฎีกา และยังยืนยันที่จะเดินหน้าต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป แม้ว่าคำพิพากษาจะเป็นไปในทิศทางใดก็ตาม

ขณะที่ศาลฎีกาพิเคราะห์จากพฤติกรรมและพยานหลักฐาน ที่ชี้ชัดถึงพฤติกรรมการที่จำเลยทำผิดกฎหมายเป็นเรื่องร้ายแรง ขอให้ศาลลงโทษสถานเบานั้นฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา 


เนื่องจากเห็นว่าเป็นการมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ละเมิดสิทธิ์ พล.อ.เปรม โดยจำเลยเป็นหัวหน้าผู้สั่งการกระทำผิด มีลักษณะของการเตรียมแผนล่วงหน้า นำมวลชนจำนวนมากไปประทุษร้าย ทำลายทรัพย์สินราชการ ฝ่าฝืนกฎหมายต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่จนเกิดการปะทะระหว่างชุมนุม เป็นเหตุให้ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก สร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง แม้ตำรวจจะสั่งให้ยุติการชุมนุมถึง 3 ครั้ง แต่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้อิฐ สิ่งของ ขว้างปาตำรวจ และการที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา สเปรย์พริกไทยในการควบคุมสถานการณ์ถือว่าเป็นไปด้วยชอบแล้ว

คดีนี้ย้อนไปวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 ช่วงเที่ยง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ภายหลังเปลี่ยนเป็นกลุ่ม นปช. ได้เคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมจากท้องสนามหลวงบุกไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม และปักหลักปราศรัยโจมตีด้วยถ้อยคำรุนแรงและหยาบคาย กดดันให้ พล.อ.เปรม ลาออกจากประธานองคมนตรี ขว้างปาอิฐ สิ่งของ และฝ่าจุดสกัดของเจ้าหน้าที่หลายจุด ทำลายแผงเหล็กทิ้งลงคลองผดุงกรุงเกษม ทำร้ายเจ้าหน้าที่แล้วยึดรถขยะกทม.มาขับเอง พุ่งชนรั้วเหล็กตำรวจ  

เมื่อบุกถึงหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ก็เปิดเวทีปราศรัยด่าทอ ตั้งแต่บ่ายจน 5 ทุ่ม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจสลายการชุมนุมหวั่นเหตุการณ์ยืดเยื้อ ใช้ความพยายาม 4 ครั้ง กว่าจะยุติการชุมนุมได้ เหตุการณ์ชุมนุมนี้ส่งผลให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บกว่า 200 นาย ฝ่ายผู้ชุมนุมบาดเจ็บเกือบ 30 คน  

คดีนี้มีพยานหลักฐานที่ชี้ชัดถึงพฤติกรรม ทั้งพยานที่เห็นเหตุการณ์ พยานบุคคลกว่า 300 ปาก แฟ้มประกอบสำนวนกว่า 4,500 หน้า ภาพคลิปวิดีโอ 66 แผ่น และการถอดคำปราศรัย 

สำหรับคดีบุกล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ยังคงมีจำเลยอีก 2 คน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ และนายศราวุธ หลงเส็ง ผู้ร่วมชุมนุม อีกสำนวนในความผิดฐานเดียวกันจากเหตุการณ์เดียวกัน  ศาลได้พักการพิจารณาคดีไว้ชั่วคราว เนื่องจากนายจตุพร ใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส. ขอรอฟังคำพิพากษาคดีถึงที่สุดสำนวนแรกมาประกอบการพิจารณา อัยการโจทก์จึงไม่ได้รวมพิจารณาคดีไปพร้อมกันกับสำนวนแรกของ 4 แกนนำในวันนี้. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่ม

นายกฯ เผยตำรวจรวมหลักฐานแล้ว ตึก สตง.ถล่ม จ่อหมายจับเร็วๆ นี้

นายกฯ ถก ผบ.ตร.-อธิบดีดีเอสไอ คืบหน้าคดีอาคาร สตง. ถล่ม ระบุตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว เตรียมออกหมายจับเร็วๆ นี้ ย้ำต้องมีผู้รับผิดชอบ กระทุ้งหน่วยงานให้ความร่วมมือส่งข้อมูล-เอกสาร เพื่อหารายละเอียดเอาผิด ย้ำรับไม่ได้สูญเสียหลายชีวิต

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารญาณเลือกตั้ง

ปิดตำนาน “อาฉี เสียงหล่อ” นักแสดงตลกดัง เสียชีวิตในวัย 57

ปิดตำนาน “อาฉี เสียงหล่อ” หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เสียชีวิตในวัย 57 ปี ญาติและทีมงานทำใจไม่ได้ เผยเตรียมกลับมาในแพลตฟอร์มต่างๆ อีกครั้ง แต่มาเสียชีวิตก่อน

ศาลให้ประกัน “เอกราช ช่างเหลา” คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ฐานยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น กว่า 1,200 ล้านบาท ก่อนได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดีต่อในชั้นศาลอุทธรณ์