3 การไฟฟ้า เร่งดำเนินคดีมิจฉาชีพ ยันอุปกรณ์ช่วยลดค่าไฟไม่มีอยู่จริง

วันนี้ (8 สิงหาคม 2562) นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในฐานะโฆษก กฟน. พร้อมด้วย นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน ผู้ช่วยผู้ว่าการยุทธศาสตร์องค์การ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ นายกิตติศักดิ์ วรรณแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) นำเจ้าหน้าที่พร้อมผู้เสียหาย จำนวน 4 คน เข้าแจ้งความดำเนินคดี หลังพบว่า มีมิจฉาชีพโฆษณาหลอกขายอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าอ้างว่าลดค่าไฟได้ ผ่านช่องทาง Facebook Fanpage : Expert Electric อีกทั้งยังละเมิดแอบอ้างหน่วยงานรัฐหรือผู้มีชื่อเสียงต่าง ๆ หรือนำภาพข่าวของ 3 การไฟฟ้า มาตัดต่อโฆษณาชวนเชื่อหลอกลวงประชาชน ณ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก. ปอท.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ


นายจาตุรงค์ เปิดเผยว่า กฟน. กฟผ. และ PEA มีความห่วงใยประชาชนที่ถูกหลอกลวงดังกล่าวอย่างยิ่ง จึงได้แจ้งดำเนินคดีทางกฎหมายกับมิจฉาชีพผู้แอบอ้างหลอกลวงประชาชนอย่างถึงที่สุด เนื่องจากพบว่ามีการละเมิดนำภาพตราสัญลักษณ์ของหน่วยงานทั้ง 3 การไฟฟ้า มาตัดต่อ แอบอ้างหลอกจำหน่ายอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า รวมถึงแอบอ้างหน่วยงานภาครัฐหรือผู้มีชื่อเสียงผู้นำมาโฆษณาชวนเชื่อสร้างความน่าเชื่อถือในช่องทางสื่อสารโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อถูกหลอกลวงเสียทรัพย์จำนวนมาก โดยวันนี้ได้นำหลักฐานพร้อมเชิญผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีกับ บก.ปอท. รวมถึงเชิญสื่อมวลชนมาร่วมทำข่าวเพื่อสื่อสารถึงประชาชนให้ระมัดระวังไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพมาหลอกลวงได้อีก ทั้งนี้ กฟน. กฟผ. และ PEA ยืนยันว่าอุปกรณ์ช่วยประหยัดไฟฟ้าหรือช่วยลดค่าไฟฟ้าภายในบ้านนั้นไม่มีอยู่จริง สำหรับอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าที่มีการนำมาแอบอ้างหลอกลวงจำหน่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์นั้น อาจเข้าข่ายหลอกหลวงผู้บริโภค โดย 3 การไฟฟ้าตรวจสอบแล้ว พบว่ามี 3 ลักษณะคือ 1) เป็นกล่องหรือตู้ที่มีสายไฟสำหรับเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้า ส่วนใหญ่ภายในเป็นเพียงตัวเก็บประจุ และประเภทที่ภายในไม่มีส่วนที่เป็นวงจรไฟฟ้าเลย มีเพียงวัสดุสำหรับถ่วงน้ำหนักบรรจุไว้เท่านั้น 2) เป็นอุปกรณ์สำหรับเสียบเข้ากับเต้ารับไฟฟ้าโดยตรง และ 3) เป็นบัตรสำหรับติด หรือแปะกับตู้จ่ายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า จึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวไม่สามารถประหยัดไฟฟ้าได้จริง และอาจส่งผลให้ระบบไฟฟ้าผิดปกติ หรือกระทบต่อระบบจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งหากนำมาใช้อาจมีความผิดตามกฎหมายได้


อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำวิธีการประหยัดไฟฟ้าที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าโดยเปิดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเฉพาะเวลาที่ต้องการใช้งานและปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศ รวมถึงการปรับตั้งอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศ ไม่ควรต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส เนื่องจากอุณหภูมิที่ต่ำเกินไปจะทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักใช้ไฟฟ้ามากขึ้น การเปิดพัดลมช่วยให้อากาศมีการเคลื่อนที่ทำให้รู้สึกเย็นเพิ่มขึ้นได้ และไม่แช่อาหารร้อนในตู้เย็น รวมถึงไม่ควรเปิด-ปิด ตู้เย็นบ่อยครั้งจะส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นด้วย อีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้คือ การเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น หลอดไฟฟ้าชนิด LED เลือกใช้เครื่องปรับอากาศชนิดอินเวอร์เตอร์ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้รับฉลากอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน เป็นต้น ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการขอคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของ 3 การไฟฟ้า หรือติดต่อผ่าน MEA Call Center โทร. 1130 หรือ PEA Call Center 1129 หรือศูนย์บริการข้อมูล กฟผ. โทร. 1416 ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง


ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. กล่าวว่า รูปแบบการหลอกลวงดังกล่าวผมได้บ่อย เนื่องจากเป็นการหลอกลวงจำนวนเงินไม่มาก ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่าย ซึ่งในกรณีดังกล่าวจะดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนที่ซื้ออุปกรณ์ในลักษณะที่เข้าข่ายการหลอกลวงเหมือนในกรณีนี้ เข้าแจ้งความเพิ่มเติมที่ บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป

▶️ Facebook : https://www.facebook.com/497340003626475/posts/2890768747616910?sfns=mo

▶️ Website : https://www.mea.or.th/content/detail/87/4868

▶️ Twitter : https://twitter.com/mea_news/status/1159331909048164352?s=21

▶️ Gnews : https://gnews.apps.go.th/news?news=44826

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”