ฝ่ายค้านวิจารณ์ ชวน ปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลาง

รัฐสภา 8 ส.ค.-ที่ประชุมสภา พิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ สมาชิกให้ความสนใจอภิปราย ในหมวดหน้าที่และอำนาจของประธานสภา และรองประธานสภา ในเรื่องการทำหน้าที่ต้องเป็นกลาง โดยเฉพาะฝ่ายค้านที่วิจารณ์การทำหน้าที่ของ “ชวน หลีกภัย” ในช่วงที่ผ่านมาไม่เป็นกลาง โต้ ไม่เคยดีแต่ปาก หน้าอย่างลับหลังอย่าง และภูมิใจไม่เคยซื้อเสียงเข้าสภา


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการถกเถียงกันในหมวด 1 เรื่องการเลือกประธานและรองประธาน ที่ให้ผู้ถูกเสนอชื่อกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในการที่จะดำรงตำแหน่งต่อที่ประชุมในเวลาที่ประธานกำหนด โดยไม่มีการอภิปรายซึ่งมีส.ส.ขอสงวนคำแปรญัตติ โดยบางส่วนเสนอให้ตัดออก โดยให้เหตุผลว่าในอดีตก็ไม่เคยมีการแสดงวิสัยทัศน์  และเมื่อเทียบกับนายกรัฐมนตรี  และประธานศาลฎีกา ก็ไม่เคยมี จึงเห็นว่าไม่จำเป็น และส.ส.บางคนเสนอให้สามารถซักถามผู้ถูกเสนอชื่อได้ด้วย 

นายวิเชียร ชวลิต ประธานคณะกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า เป็นการเพิ่มเข้ามาตั้งแต่ตอนยกร่าง โดยคณะกรรมาธิการเห็นว่าการแสดงวิสัยทัศน์เพื่อให้เกิดความสง่างาม และเห็นว่าไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่จะมาเป็นประธานหรือรองประธาน เพราะส่วนใหญ่เป็นส.ส.มาหลายสมัย 


นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการฯ กล่าวว่า ต่อจากนี้ยุคสมัยเปลี่ยน และงานของประธานสภาไม่ใช่มีเฉพาะงานการเมืองเท่านั้น มีงานบริหารอีกมากมาย จึงเห็นว่าควรให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ และทราบว่าในส่วนของวุฒิสภาก็มีการแสดงวิสัยทัศน์ 

ในที่สุดจึงต้องลงมติ และที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามคณะกรรมาธิการฯคือยังคงให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องแสดงวิสัยทัศน์ ด้วยคะแนน 240 ต่อ 178 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง  

 จากนั้นพิจารณาหมวด 2 ซึ่งมี ส.ส.สงวนคำแปรญัตติในหมวดหน้าที่และอำนาจของประธานสภา และรองประธานสภา ในมาตรา 9 ที่กำหนดไว้ว่า ประธานของที่ประชุมต้องวางตัวเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ โดยยึดถือข้อบังคับอย่างเคร่งครัด 


โดย น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้เพิ่มเนื้อหาว่า หากประธานปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลาง มีความอคติ ให้สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน เสนอให้ที่ประชุมวินิจฉัยการปฏิบัติหน้าที่หรือการใช้อำนาจของประธานได้ โดยที่ประชุมต้องลงมติด้วยคะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ในสภา เพื่อให้ขอโทษและแก้ไข

ด้านส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ถือโอกาสวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของนายชวนว่า ที่ผ่านมาทำหน้าที่ไม่เป็นกลางหลายกรณี

นายชวน จึงชี้แจงว่า ตนเป็นนักการเมืองเก่า แต่ก็ยังภาคภูมิใจว่าไม่เคยซื้อเสียง และไม่เห็นด้วยกับการซื้อเสียง บางคนพูดดี แต่เบื้องหลังทุจริตมา ซื้อเสียงมา ฉะนั้น สิ่งสำคัญคือเราจะทำอย่างไรให้การเมืองดีขึ้น ตนไม่ใช่คนดีแต่ปาก ในสายตาของตนถ้าไม่มีศาลรัฐธรรมนูญ บ้านเมืองเราคงเหลวแหลก เละเทะหมด ถ้าเราไปอยู่กับพวกโกงบ้านโกงเมืองก็จะมองว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่น่านับถือ  

“ผมเข้ามาเล่นการเมือง ไม่ใช่ไม่มีงานทำ แต่ตัดสินใจเพื่อเป็นนักการเมือง โดยเป็นหนี้บุญคุณคน จ.ตรัง เป็นหนี้บุญคุณคนภาคใต้ เป็นหนี้บุญคุณพี่น้องทั้งประเทศ เพื่อมาทำงานการเมือง ฉะนั้น ท่านอย่าประเมินว่า คนที่มาแบบนี้ไม่น่าเชื่อถือ ผมอยากให้ใครก็ตามย้อนกลับดูตัวเองว่า แต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าไปหวังว่า ทุกคนจะเหมือนกัน เราอย่าไปตำหนิคนอื่น เพราะสำคัญที่ตัวเราเอง อย่าประพฤติปฏิบัติแบบที่เราไม่เห็นด้วย ผมไม่ใช่พวกพูดอย่างลับหลังอย่าง ปากบอกสุจริตลับหลังซื้อเสียง” นายชวน กล่าว

นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า ประธานสภาฯ ทำผิดข้อบังคับการประชุม ข้อที่ 5 ทำเหมือนเป็นผู้อภิปรายเสียเอง ทำให้เสียเวลาการประชุมมา 2 ชั่วโมงกว่า 

นายชวน ชี้แจงว่า ตนมีสิทธิ์ป้องกันตัวเอง เรื่องที่ไม่จริงก็คือไม่จริง ถ้าตนชี้เรื่องใดก็ยอมรับว่าชี้นำ เรื่องอื่น ๆ นอกเหนือจากการแนะนำเรื่องตั้งกรรมาธิการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ก็ไม่เคยชี้นำเรื่องใด

ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า ขอให้พิจารณาร่างข้อบังคับต่อไป ไม่เช่นนั้นจะถกเถียงกันมาก  หากมีกรณีที่ประธานสภาฯ วางตัวไม่เป็นกลางจริง ๆ ตนก็จะเดินออกจากห้องประชุม แต่ไม่ไปลากเก้าอี้ประธานและเขวี้ยงแฟ้มใส่ประธาน 

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายเป็นห่วงที่ กรรมาธิการฯอ้างว่า ให้ประธานสภาฯวางตนเป็นกลาง เพราะเป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดบทบาทของประธานสภาฯ ไว้แล้ว หากกรรมาธิการพิจารณา จะเห็นได้ชัดเจนว่า คนที่จะเป็นประธานสภาฯ ก็ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญโดยเคร่งครัด ดังนั้น คนที่สมาชิกเลือกเป็นประธาน ก็ต้องเชื่อมั่นจะวางตัวเป็นกลางทางการเมือง แต่ตนสงสัยว่า เหตุใดกรรมาธิการฯ จึงแก้ไขบทบัญญัติไปจากข้อบังคับเดิม ซึ่งหากส่งเสริมให้ประธานสภาฯ วางตัวเป็นกลางนั้น ตนก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ควรไปคิดในเรื่องบทบัญญัติจริยธรรมของประธานสภาฯ ไม่ใช่นำมาเขียนในหมวดหน้าที่และอำนาจของประธานสภา  จึงขอให้กรรมาธิการฯถอนในสิ่งที่กรรมาธิการฯ เขียนเพิ่มขึ้นมา ให้เรื่องการวางตัวเป็นกลางอยู่ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญก็เพียงพอ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่า หากเขียนการทำหน้าที่ของประธานสภาฯไว้ชัดเจน ไม่ว่าใครจะทำหน้าที่ประธาน ก็จะทำหน้าที่ได้อย่างไม่บกพร่อง ส่วนตัวจึงเห็นด้วยให้บรรจุคำที่กำหนดว่าให้ประธานสภาฯทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง เชื่อว่า ทุกคนอยากเห็นการทำหน้าที่อย่างสง่างาม 

จากนั้น ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติไม่เห็นชอบให้ประเด็นการวางตัวเป็นกลางในข้อบังคับฯนั้น คงไว้ตามร่างเดิม ก่อนที่กรรมาธิการฯแก้ไข ด้วยคะแนน 205 ต่อ 204 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง

นายชวน จึงสรุปให้สมาชิกเข้าใจว่า การลงมติครั้งนี้ หมายความว่า สภาฯได้เห็นชอบตามที่กรรมาธิการฯ แก้ไข ที่กำหนดในร่างข้อบังคับฯให้ประธานของที่ประชุมต้องวางตัวเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ โดยยึดถือข้อบังคับอย่างเคร่งครัด 

จากนั้น นายชวนได้ขอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติว่า จะเห็นชอบตามที่กรรมาธิการแก้ไข หรือเห็นชอบตามที่มี ส.ส.สงวนคำแปรญัตติ ท้ายที่สุด ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบให้หมวดดังกล่าวเป็นไปตามที่กรรมาธิการแก้ไขคือที่กำหนดในร่างข้อบังคับฯให้ประธานของที่ประชุมต้องวางตัวเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ โดยยึดถือข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ด้วยคะแนน 409 ต่อ 2 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง 

จากนั้น นายชวนแจ้งต่อที่ประชุมว่า ในมาตรา 10 ไม่มีผู้สงวนคำแปรญัตติขอแก้ไข แต่เชื่อว่าใน มาตรา 11 จะมีผู้ปรายจำนวนมาก จึงได้ขอเลื่อนการพิจารณาไปในสัปดาห์หน้าแล้วสั่งปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในเวลา 17.50 น..-สำนักข่าวไทย              

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]