สภาฯ ผ่านร่าง พ.ร.บ.เหรียญรัตนาภรณ์ ร.10 3 วาระรวด

รัฐสภา 8 ส.ค.- ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มติเอกฉันท์เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 10 พ.ศ. … 3 วาระรวด  เป็นร่างกฎหมายฉบับแรกสำหรับสภาฯ ชุดปัจจุบัน 


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (8 ส.ค.) มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2  ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 10 พ.ศ. … โดย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  ชี้แจงว่า เป็นร่างกฎหมายฉบับแรก หลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงลงพระปรมาภิไธยให้ใช้เป็นกฎหมาย เพื่อเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์  หมายถึงเครื่องประดับของพระมหากษัตริย์ หรือที่พระมหากษัตริย์พระราชทานแก่บุคคลต่างๆ โดยใช้เป็นเครื่องประดับ ที่มีมาตั้งแต่รัชกาลที่ 4 และมีกฎหมายรองรับเป็นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 และเมื่อผ่านพ้นพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญรัตนาภรณ์ประจำรัชกาลขึ้น เพื่อพระราชทานให้ข้าฝ่าละอองธุลีพระบาทตามราชอัธยาศัย จึงมีความจำเป็นให้มีกฎหมายรองรับ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเลียนแบบ หรือผู้ที่ไม่มีสิทธินำไปใช้ประดับ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพฯ  พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายเห็นด้วย   แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงการปลอมแปลงเหรียญพระราชทาน  ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจำนวนมาก  รัฐบาลต้องตอบสังคมว่า จะแก้ปัญหาการปลอมแปลงเหรียญได้อย่างไร เพราะแม้แต่ในอินเตอร์เนตยังมีการปลอมแปลง แต่เหตุใดรัฐบาลยังนิ่งเฉย 


จากนั้น ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วยคะแนน 432 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง แต่เนื่องจากมติที่ออกมาครั้งแรกมีความผิดพลาด เพราะสมาชิกยังไม่คุ้นชินกับอุปกรณ์การลงคะแนน และเป็นครั้งแรกของการลงมติพิจารณาร่างกฎหมาย ทำให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่รัฐสภาระบุว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กดลงคะแนนไม่รับหลักการ  ทำให้นายชาดาลุกขึ้นยืนยันต่อที่ประชุมว่า  ได้ลงมติเห็นด้วย ประกอบกับมีสมาชิกอีกจำนวนมากที่ลงมติไม่ทัน เนื่องจากไม่ได้ยินเสียงออด และรับประทานอาหารอยู่ด้านนอกห้องประชุม

นายศุภชัย ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม จึงได้ขอให้ที่ประชุมลงมติใหม่อีกครั้ง โดยก่อนการลงมติ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่รัฐสภาชี้แจงการลงมติที่ถูกต้องต่อสมาชิก ซึ่งตลอดเวลาของการซักซ้อมการลงคะแนน สมาชิกหลายคนสับสน และได้ลุกขึ้นมาสอบถามการลงคะแนนที่ถูกต้อง ขณะที่ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นมาชี้แจงว่า ด้านนอกห้องประชุม ไม่ได้ยินเสียงลำโพง 

นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ที่สลับมาทำหน้าที่ประธานการประชุม  กล่าวว่า เห็นด้วยกับนายวีระกร  ข้างนอกห้องประชุม แม้แต่ลำโพงก็ไม่ได้ยินเสียง จึงฝากไปยังนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่าขออย่าตัดงบประมาณ


จากนั้น ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยมีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวในวาระแรก ด้วยคะแนน 469 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภาเพื่อพิจารณา 3 วาระรวด 

ต่อมา ที่ประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นรายมาตราในวาระที่ 2   ไม่มีสมาชิกคนใดอภิปรายขอแก้ไขในวาระที่ 2 ที่ประชุมจึงเข้าสู่การลงมติในวาระที่ 3 โดยที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 10 พ.ศ. … ด้วยคะแนน 455 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง เพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ต่อวุฒิสภา เพื่อพิจารณาต่อไป ถือเป็นร่างกฎหมายฉบับแรกที่ผ่านสภาฯ ชุดนี้    . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย