เมืองทองธานี 7 ส.ค.-โฆษกกระทรวงการคลังระบุกรณีกนง.ลดดอกเบี้ยนโยบาย
สอดคล้องนโยบายการคลัง เอื้อบรรยากาศการลงทุน เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อครม.เศรษฐกิจ
อัดฉีดเงินทุน 170,000 ล้านบาทช่วยกระตุ้น
นายลวรณ
แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ
0.25 มาอยู่ที่ร้อยละ 1.50 นับว่าเอื้อต่อบรรยากาศการลงทุน
ส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้น
ถือเป็นจิตวิทยาอีกด้านหนึ่งช่วยชะลอเงินทุนไหลเข้า ลดแรงกดดันต่อเงินบาทแข็งค่า
ซึ่งกระทรวงการคลังเตรียมประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในเร็ว ๆ นี้ หลังจากไตรมาสแรก จีดีพีขยายตัวร้อยละ
2.8 สำหรับการอ่อนค่าของเงินหยวน กระทรวงการคลังได้จับตาอย่างใกล้ชิด เพราะเงินหยวนอ่อนค่าลง
ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น อาจกระทบต่อการท่องเที่ยว จีนเป็นต่างชาติกลุ่มใหญ่เดินทางมาเที่ยวไทย
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว
เพื่อส่งเสริมการคนไทยเที่ยวไทยและต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทย
ขณะนี้ได้หารือกับหลายหน่วยงานเตรียมพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใกล้สรุปหลักเกณฑ์ทั้งหมดแล้ว
เพื่อดูแลทั้งภาคเกษตร ผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอี คนมีรายได้ระดับกลาง
ยอมรับว่าเงินทุนอัดฉีดประมาณ 170,000 ล้านบาท เพียงพอขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจพิจารณาได้วันที่
19 สิงหาคมนี้
นายกฤษฎา
จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร
เปิดเผยว่า เป้าหมายการจัดเก็บภาษี 100,000 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2562 เหลืออีก
1 เดือนครบปีงบประมาณ จัดเก็บภาษีเกินเป้าหมาย
8,000 ล้านบาท เพราะยอดภาษีจากการซื้อรถยนต์สูงต่อเนื่อง
เป็นช่วงครบกำหนดรถยนต์คันแรก หลายคนต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่ เมื่อเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นส่งผลต่อการจัดเก็บภาษี
ส่วนแผนการควบคุมกระเทียมนำเข้าต้องขนส่งสินค้าผ่านมาทางเรือ
ลดปัญหาการลักลอบสินค้าได้อีกมาก จากเดิมมักลักลอบตามแนวชายแดน
นับว่าการลักลอบกระเทียมภาคใต้หายไป จึงพร้อมบังคับใช้กับสินค้าเกษตรด้านอื่นเพื่อให้สำแดงทางเรือ เช่น มะพร้าว ต้องขนมาทางเรือเท่านั้น
แนวทางดังกล่าวทำให้ปริมาณขนส่งหอมและกระเทียม เพิ่มจาก 30 ล้านตันเป็น 70
ล้านตันต่อปี และยังทำให้ยอดภาษีจากกระเทียมเพิ่ม 200 ล้านบาท หอม 400
ล้านบาท
จึงต้องร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคงช่วยดูแลการลักลอบภาษีตามแนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย