บาทแข็งค่า หุ้นไทยขึ้น หลังรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ

กรุงเทพฯ 13 ส.ค.- บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์นี้(8-11 ส.ค.) ว่า เงินบาทแข็งค่ากลับมาช่วงปลายสัปดาห์ ท่ามกลางกระแสเงินทุนไหลเข้า โดยเงินบาทอ่อนค่าในช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์เข้าใกล้แนว 35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังเงินดอลลาร์ฯ ยังคงได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด อย่างไรก็ดี เงินบาทดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ สอดคล้องกับการที่นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิทั้งในส่วนของตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทย ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ ก็เผชิญแรงขายมากขึ้น หลังตัวเลขผลิตภาพการผลิตไตรมาส 2/2559 ของสหรัฐฯ ที่หดตัว ทำให้จังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดยังมีความไม่แน่นอน สำหรับในวันพฤหัสบดี (11 ส.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 34.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.81 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ (5 ส.ค.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (15-19 ส.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.70-35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องติดตามกระแสเงินทุนไหลเข้า และตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 2/2559 ของไทย ตลอดจนสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากบันทึกการประชุมเฟด ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก และเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภค การผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2559 ของญี่ปุ่น และอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนด้วยเช่นกัน
ส่วนตลาดหุ้น สรุปความเคลื่อนไหวสัปดาห์นี้(8-11 ส.ค.) ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้น หลังรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,552.64 จุด เพิ่มขึ้น 2.24% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 30.12% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 72,715.64 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 576.78 จุด ลดลง 0.89% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ก่อนที่จะย่อตัวลงเล็กน้อยช่วงกลางสัปดาห์จากแรงขายทางเทคนิค หลังดัชนีไม่สามารถผ่าน 1,550 จุดได้ จากนั้น ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นต่อในวันพฤหัสบดี โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค อนึ่ง นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์นี้กว่า 2 หมื่นล้านบาท ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย


สำหรับสัปดาห์ถัดไป (15-19 ส.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,540 และ 1,520 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,560 และ 1,575 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2559 ของไทย กระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ รวมทั้ง ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ดัชนีราคาผู้บริโภค รวมทั้งการเปิดเผยบันทึกการประชุมเฟด ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ คงได้แก่ ข้อมูลการค้าของญี่ปุ่น-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ