นนทบุรี 7 ส.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์มอบ 10 นโยบายเร่งด่วน ย้ำดูแลราคาสินค้าเกษตร 5 ชนิด ผ่านโครงการประกันราคา นำร่องสินค้าปาล์ม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบนโยบายผู้บริหารและหน่วยงานกระทรวงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยเน้น 10 นโยบายหลัก คือ การประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิด ข้าว ยาง ปาล์ม มันสำปะหลัง และข้าวโพด ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เนื่องจากเกษตรกรมีความคาดหวังต่อรัฐบาลสูงว่าจะช่วยยกระดับรายได้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะใช้กลไก 3 ประสาน ทั้งภาครัฐ เอกชน เกษตรกร ร่วมตัดสินใจเรื่องราคาและเงื่อนไข เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมกำหนดรายละเอียดประกันรายได้ปาล์มเป็นสินค้าแรก ส่วนยาง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีการหารือรายละเอียดเพื่อกำหนดแนวทางช่วยเหลือวันที่ 9 สิงหาคมนี้ และสินค้าเกษตรอีก 3 ชนิด จะมีพิจารณาตามความเหมาะสม
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาสินค้าเกษตร จะเน้นแก้ปัญหาเชิงรุก โดยไม่รอให้เกิดปัญหาและใช้ระบบเกษตรพันธสัญญา เพื่อลดความเสี่ยงด้านตลาดและราคา โดยในส่วนราคายังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า จะเท่ากับราคาที่พรรคประชาธิปัตย์หาเสียงไว้หรือไม่ เพราะต้องหารือกับคณะทำงาน 3 ประสานอีกครั้งก่อน และเมื่อทุกอย่างชัดเจนจะนำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อกำหนดแนวทางการใช้งบประมาณแต่ละโครงการให้เป็นรูปธรรม ซึ่งรัฐบาลเห็นความสำคัญความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรและรอโครงการประกันรายได้ ซึ่งจะดำเนินการทุกเรื่องให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ ยังเน้นดูแลราคาสินค้าและบริการให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย เร่งรัดการส่งออกสินค้าเกษตร โอทอป เสื้อผ้า เครื่องประดับและอื่น ๆ ซึ่งมียุทธศาสตร์สำคัญ คือ รักษาตลาดเดิมและเปิดตลาดใหม่และฟื้นตลาดเดิมที่เคยหายไป และเน้นการค้าชายแดน ข้ามแดน และเร่งเจรจาการค้าที่ค้าง เช่น RCEP เอฟทีเอไทย-อียู ไทย- ปากีสถาน ไทย- ตุรกี และ CPTPP
ทั้งนี้ ยังจะเดินหน้าระบบ e- filling ให้มีความง่าย สะดวกรวดเร็วในการจดทะเบียนนิติบุคคล เร่งการจดทะเบียนสิทธิบัตรจีไอ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ จัดโมบายให้ความรู้ด้านการจดทะเบียน การผลักดันธุรกิจยุคใหม่ เช่น อี-คอมเมิร์ซ และให้ความสำคัญกับโชห่วย เพราะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยปรับเป็นสมาร์ทโชห่วย หรือโชห่วยนิวลุค ควบคู่กับร้านธงฟ้าที่ดำเนินการอยู่แล้ว โดยกระทรวงจะเป็นพี่เลี่ยงปรับโฉม ส่งเสริมธุรกิจภาคบริการ เช่น ร้านอาหารไทยซีเล็ก สปา ธุรกิจภาพยนต์และอื่น ๆ เพื่อให้สามารถเปิดธุรกิจได้ในต่างประเทศ และจะใช้กลไกในการขับเคลื่อน
นอกจากนี้ จะประชุมจะหารือร่วมกันทุกฝ่ายอย่างน้อย 1 ครั้ง/เดือน ใช้กลไก กรอ.พาณิชย์ ที่จะช่วยกันขับเคลื่อนนโยบาย กลไก 3 ประสาน ในการตัดสินใจนโยบายด้านการเกษตรจะมีตัวแทนจากภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร และกลไกทูตพาณิชย์มืออาชีพในการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย