คมนาคมพร้อมรื้อสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์แล้ว

กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – คมนาคมยืนยันคดีค่าโง่โฮปเวลล์สามารถรื้อฟื้นคดีต่อสู้ได้ทั้งประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ขณะที่รายงานข่าวระบุอัยการเสนอหยิบประเด็นการถอนหุ้นจากโฮปเวลล์ประเทศไทยใช้ต่อสู้คดี


นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงประเด็นการรื้อฟื้นคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ที่ก่อนหน้านี้สำนักงานอัยการได้นำเสนอข้อมูลเพื่อทำการรื้อฟื้นคดีกลับมาต่อสู้อีกครั้ง โดยผู้สื่อข่าวถามว่าประเด็นข้อกฎหมายที่จะหยิบยกมาต่อสู้นั้น มีประเด็นอะไรบ้าง ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ยังไม่ทราบประเด็นทางข้อกฎหมายที่อัยการจะหยิบยกมาต่อสู้ แต่เบื้องต้นทราบว่าการรื้อฟื้นคดีมาต่อสู้นั้น มีประเด็นใหม่ที่สามารถต่อสู้ได้ ทั้งประเด็นข้อกฎหมายและประเด็นข้อเท็จจริง 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประเด็นสำคัญที่จะนำมาฟื้นคดีโฮปเวลล์  คือ ประเด็นที่บริษัทโฮปเวลล์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด (สัญชาติฮ่องกง) ถอนหุ้นออกจากบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด และมีนิติบุคคลอื่นเข้ามาถือหุ้นแทน


สำหรับการลงนามสัญญาระหว่างโฮปเวลล์และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2533 กำหนดให้มีการตั้งบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนในไทยเพื่อรับสัญญาสัมปทาน 30 ปี โดยสัญญาเริ่มมีผลวันที่ 6 ธันวาคม 2534 มีเงื่อนไขสำคัญให้บริษัทโฮปเวลล์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด (สัญชาติฮ่องกง) ต้องคงการถือหุ้นในบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด อย่างน้อย 30% ของเงินทุนจดทะเบียน ตามข้อเสนอของกรมอัยการ รวมทั้งสัญญากำหนดให้การจัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งขึ้นมาเพื่อดำเนินการเฉพาะกิจการสัมปทานเท่านั้น

ทั้งนี้ ข้อมูลการยื่นสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) ของบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า การรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2548 เป็นครั้งสุดท้ายที่ปรากฏมีชื่อผู้ถือหุ้น โดยบริษัท โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด และนายกอร์ดอน วู ยิง เช็ง นักธุรกิจที่เป็นผู้เสนอลงทุนโครงการดังกล่าว

โดยก่อนหน้านั้น การยื่นเอกสาร บอจ.5 พบการระบุจำนวนหุ้น 600 ล้านหุ้น ถือโดยบริษัท โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด ที่ถือหุ้นมากที่สุด 599,994,000 หุ้น ส่วนที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย 6 คน ๆ ละ 1,000 หุ้น คือ นายกอร์ดอน วู  ยิง เชง ,นายเอ็ดดี โฮ ปิง ชาง (อังกฤษ) ,นายเอ็นรี่ ลี ฮิน โมล์ (อังกฤษ) ,นายโรเบิร์ต แวน-จิน เนียน (จีน) ,นายเดวิด ลุย ยัว เกย์ (ออสเตรเลีย) และนายอนุศักดิ์ อินทรภูวศักดิ์ ซึ่งเป็นผู้แนะนำให้นายกอร์ดอน วู ยิง เชง เข้ามาลงทุนประมูลสร้างทางรถไฟยกระดับดังกล่าว และผลักดันจนเกิดการลงนามสัญญาสัมปทานระหว่างรัฐกับเอกชน


หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญของการยื่น บอจ.5 ของการประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 ในรายชื่อผู้ถือหุ้นที่รับรองไม่มีชื่อบริษัทโฮปเวลล์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด และนายกอร์ดอน วู ยิง เชง ซึ่งการประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าวระบุมีจำนวนหุ้น 1,500 ล้านหุ้น และเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหม่ทั้งหมด คือ บริษัทยูไนเต็ด ซัคเซส ลิมิเต็ด ถือหุ้น 1,499,999,994 หุ้น ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศมอริเชียส ส่วนที่เหลือเป็นรายย่อย 6 คน ๆ ละ 1 หุ้น สัญชาติไทยทั้งหมด คือ นายไชยยันต์ ชาติกุล ,นางสาววิชชุดา ศรีรัตนประภาศ ,นางสาวสุนันทา นิศกุลรัตน์ ,นางนิตยา เกียรติเสรีกุล ,นายสุนันท์ พิพัฒน์สมบัติ และนางศรีรัชฎ์ ปัญจพรรค์ และต่อมาปี 2549 มีการซื้อขายหุ้นจำนวน 50 ล้านหุ้น ถึง 3 ครั้ง 

ขณะที่มีการประชุมผู้ถือหุ้นพื่อรับรองรายชื่อผู้ถือหุ้น 16 ครั้ง และแจ้งรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2561 ยังคงมีบริษัทยูไนเต็ด ซัคเซส ลิมิเต็ด เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 1,499,999,994 หุ้น รองลงมาเป็นบริษัทเอฟเอสเอ็น คอลซัลติ้ง (สัญชาติมาเลเซีย) ถือหุ้น 50 ล้านหุ้น และแจ้งทำธุรกิจค้าขาย ส่วนที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยชาวไทย 5 คน 

นอกจากนี้ ในการแจ้งงบดุลของบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าปี 2560 ได้เริ่มระบุต้นทุนการได้มาซึ่งสัมปทาน โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 ระบุต้นทุนการได้มาซึ่งสัมปทาน 19,862 ล้านบาท และข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 ระบุต้นทุนการได้มาซึ่งสัมปทานโครงการทางด่วนยกระดับและระบบการขนส่งทางรถไฟและทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ไว้ที่ 19,870 ล้านบาท ซึ่งรวมรายการอัตราแลกเปลี่ยนและดอกเบี้ยจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสัมปทานแล้ว

ซึ่งทั้งหมดเป็นประเด็นที่อัยการเห็นว่าสามารถหยิบยกมาต่อสู้คดีได้  และหากสำเร็จจะทำให้ รฟท.ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยค่าโง่ตามคำสั่งศาลฯ หลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้รัฐ โดย รฟท.จ่ายค่าโง่  11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 180 วัน แก่โฮปเวลล์ เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา โดยล่าสุดเมื่ออัยการมีความเห็นที่จะรื้อฟื้นคดีกลับมาต่อสู้นั้น คณะกรรมการฯ ที่มีการจัดตั้งเพื่อทำดิวการเจรจาและจ่ายเงินตามคำสั่งศาลกับโฮปเวลล์ก็ได้ระงับการเจรจาไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]