พท.เตรียมเอาผิดคนปล่อยข่าวโฮปเวลล์

พรรคเพื่อไทย 14 มี.ค.-โฆษกเพื่อไทย ยันข่าวจี้รัฐจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ เอื้อประโยชน์เอกชนเป็นข้อมูลเท็จ เตรียมเอาผิดคนปล่อยข่าว


น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีปล่อยข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ  โดยมีเนื้อหาว่าพรรคเพื่อไทยเร่งรัดให้รัฐบาลจ่ายค่าโง่โครงการโฮปเวลล์ รวมเป็นเงินประมาณ  24,000 ล้านบาท  ตามคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดในปี 2562  โดยระบุอีกด้วยว่าพรรคมีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนที่ซื้อกิจการบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จ ที่จงใจสร้างความเข้าใจผิดให้กับสาธารณชน

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอชี้แจงในประเด็นต่าง  ดังนี้  1.นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 กรณีค่าโง่โฮปเวลล์ที่รัฐบาลต้องจ่ายค่าเสียหาย 24,000 ล้านบาทให้กับบริษัท โฮปเวลล์ ที่ถูกยกเลิกสัญญาตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในปี 2562 โดยเรียกร้องให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้นต้องชดใช้ค่าเสียหาย


“การอภิปรายดังกล่าว เกิดขึ้นก่อนที่ศาลปกครองสูงสุดจะกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นให้รื้อคดีใหม่ เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา (2565)   โดยพรรคเพื่อไทยเห็นว่า การชดใช้ค่าเสียหายนั้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องจ่าย  ไม่ควรนำเงินงบประมาณจากภาษีของประชาชนไปจ่าย ไม่ใช่การเร่งรัดให้จ่ายค่าเสียหายโดยเร็วตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 2. พรรคเพื่อไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายบริษัทเอกชนที่ซื้อกิจการ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด 3.พรรคเพื่อไทยขอให้ศาลพิจารณาคดีค่าโง่โฮปเวลล์อย่างโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย  เพื่อให้ประเทศไทยไม่ต้องสูญเสียงบประมาณไปอย่างเปล่าประโยชน์  ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า ผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ พร้อมทั้งส่งต่อ ขยายความ และจงใจทำให้เกิดความประชาชนเข้าใจผิด  จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560  มาตรา 14(1) ระบุว่า ผู้ใดกระทําความผิดโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ 


“ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยปกป้องผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ปกป้องภาษีของประชาชนทุกบาทมาโดยตลอด ทั้งการเปิดโปงการทุจริตจัดซื้อถุงมือยางของ อคส. เป็นเงินงบประมาณของรัฐกว่า 112,500 ล้านบาท เปิดโปงส่วนต่างการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค 2,000 ล้านบาท หรือกรณีที่ประเทศไทยอาจต้องจ่ายค่าโง่จากคำสั่งปิดเหมืองทองของพลเอกประยุทธ์ คิดเป็นความเสียหายกว่า 12,000 ล้านบาท และอาจต้องแร่เนื้อเถือแผ่นดินให้เอกชนนับแสนไร่  จึงไม่มีเหตุผลใดที่พรรคเพื่อไทยจะไม่ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ เราเห็นว่าผู้ที่มีส่วนร่วมในการกระทำผิดนั้นจะต้องเอาเงินตัวเองชดใช้ความเสียหายแทนประชาชน  ไม่ใช่เอาภาษีของพี่น้องประชาชนไปจ่าย” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”