ย้าย ผอ.รร.ช่วยราชการ เซ่นไข่พะโล้บูด

ฉะเชิงเทรา 5 ส.ค.- ประเด็นเรื่องของอาหารกลางวันเด็กนักเรียนยังมีให้เห็นต่อเนื่อง ล่าสุด โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี มีการนำไข่พะโล้บูดไปล้างน้ำ แล้วนำกลับมาต้มให้เด็กกิน วันนี้ นายอำเภอกบินทร์บุรีนำกรรมการลงพื้นที่สอบสวนผู้อำนวยการ ครู และแม่ครัว เบื้องต้นสั่งย้ายผู้อำนวยการแล้ว


เสียงขับไล่จากนักเรียนและชาวบ้าน ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมชูป้ายประท้วง ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาในพื้นที่ หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพอ้างว่า โรงเรียนนำไข่พะโล้ที่บูดแล้วไปล้างน้ำ ก่อนนำกลับมาปรุงใหม่ เป็นอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนรับประทานจนท้องเสีย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา


นายอำเภอกบินทร์บุรีลงพื้นที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สอบถามผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู แม่ครัว เพื่อหาข้อเท็จจริง ผู้อำนวยการโรงเรียนโต้เสียงแข็ง ว่าเรื่องที่ปรากฏตามข่าวนั้นไม่เป็นความจริง โรงเรียนมีนโยบายทำอาหารให้เด็กนักเรียนกินวันต่อวัน ทั้งหมดเป็นการจัดฉากขึ้น เพื่อต้องการทำลายชื่อเสียงของโรงเรียน ยืนยันถูกใส่ร้าย เป็นฝ่ายถูกกระทำ ท้าให้พิสูจน์ความจริง


ขณะที่แม่ครัว ยืนยันผู้อำนวยการโรงเรียนสั่งให้ล้างไข่พะโล้บูด และให้นำไปปรุงใหม่ เพื่อให้เด็กรับประทานจริง ยอมรับเป็นคนชิมเอง และมีรสชาติเปรี้ยว ไม่เคยคิดจะออกมาใส่ร้ายหรือจัดฉากแต่อย่างใด แค่ออกมาพูดความจริงเท่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับนักเรียนและผู้ใหญ่บ้านว่า เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจริง ขอให้ผู้อำนวยการโรงเรียนออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม นายอำเภอกบินทร์บุรี และรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรีเขต 2 จะนำข้อมูลทั้งสองฝ่ายที่ชี้แจงในที่ประชุมไปหารือกับผู้บังคับบัญชา พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เบื้องต้นจะให้ผู้อำนวยการโรงเรียนไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 2 

ทีมข่าวตรวจสอบเมนูอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งนี้ พบว่าในแต่ละวันจะมีเมนูอาหารไว้แล้ว ซึ่งต้นทุนในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการอาหารกลางวัน สัปดาห์ละ 26,000 บาท เฉลี่ย 5,000 บาท/วัน สำหรับเมนูวันนี้ คือ ต้มจืดไก่ใส่ผักกาดขาว, แกงเทโพ, ผัดพริกแกงถั่ว และแตงโม โรงเรียนแห่งนี้เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียนทั้งหมด 275 คน วันนี้มีการเรียนการสอนตามปกติ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ