ก.ศึกษาธิการ 3 พ.ค. – สพฐ.แจงย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนปมอาหารกลางวันนักเรียน ตามระเบียบฯ ย้ำชัดติดตามกำกับอย่างใกล้ชิด
นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ ลงข้อความในทำนองว่า ผอ.ข้าวไข่ต้ม ย้ายตำแหน่งใหญ่กว่าเดิม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เอาไปซุกรอเรื่องเงียบ 3 เดือนกว่า ล่าสุด 25 เม.ย.67 มีคำสั่งไปดำรงตำแหน่งเป็น ผอ.โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินูปถัมภ์ จ.เชียงใหม่ ดีกว่าเดิม พร้อมกับลงภาพถ่าย คำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ 898/2567 สั่ง ณ วันที่ 25 เมษายน 2567 ซึ่งข้อความข่าวดังกล่าวอาจจะทำให้สังคมเข้าใจผิดว่า สพฐ.ดำเนินการไม่เหมาะสม โดยสั่งให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ใหญ่กว่าเดิมนั้น
นางเกศทิพย์ กล่าวว่า ในประเด็นดังกล่าว ขอยืนยันว่า ข้อเท็จจริงไม่เป็นไปตามที่เพจดังกล่าวเสนอ กล่าวคือ โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนนักเรียนเพียง 111 คน (ข้อมูล ณ 10 มิ.ย.66) มีพื้นที่ 3 ไร่เศษ ในขณะที่โรงเรียนเดิม คือ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจำนวนนักเรียน 496 คน พื้นที่ 654 ไร่ จึงขอยืนยันว่าโรงเรียนที่ไปปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวมีปริมาณงานที่ลดลงกว่าเดิม มีนักเรียนน้อยกว่าเดิม และมีพื้นที่ในการบริหารจัดการน้อยกว่าเดิม จึงไม่ใช่สั่งให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ใหญ่กว่าเดิม และไม่ใช่ สพฐ. สั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าวไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่ แต่เป็นการสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวเท่านั้น ส่วนการย้ายยังไม่ถึงช่วงเวลาที่ต้องดำเนินการ ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าวจะได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ ยังไม่เป็นที่แน่นอน ต้องขึ้นอยู่กับคู่แข่งขันและความเหมาะสม
อีกทั้งการที่ สพฐ. สั่งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวที่โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากมีเหตุผลความจำเป็น คือ ในระหว่างที่สั่งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ที่ สพฐ. ที่กรุงเทพมหานครแล้ว ปรากฏว่า สามีของผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าวป่วยหนัก ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงมีความลำบากที่ต้องเดินทางไปกลับระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับกรุงเทพมหานคร ตามหลักคุณธรรมในการบริหารงานบุคคล จึงมีความจำเป็นต้องสั่งการให้ผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวที่โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้มีโอกาสดูแลสามีได้อย่างใกล้ชิด เพราะตราบใดที่ยังไม่มีผลการพิจารณาหรือตัดสินว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวมีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ก็ต้องถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตามหลักการที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย จึงขอยืนยันว่า สพฐ. ได้พิจารณาและดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ แบบแผนของทางราชการอย่างเคร่งครัด ไม่มีการเลือกปฏิบัติทั้งสิ้น ซึ่งหากผลการดำเนินการทางวินัย หรือผลของการดำเนินคดีอาญาในเรื่องที่กล่าวหาผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าว ออกมาอย่างไร สพฐ. ก็ต้องดำเนินการไปตามนั้นอย่างตรงไปตรงมา
พร้อมกันนี้ สพฐ. ได้มีการติดตามความคืบหน้าของการดำเนินการที่เกี่ยวข้องมาเป็นระยะ และเมื่อผู้อำนวยการคนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวที่โรงเรียนแห่งใหม่ดังกล่าว ก็ได้สั่งการกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล จึงขอให้สังคมมีความเชื่อมั่นว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย อย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์ของทางราชการอย่างแท้จริง.-416-สำนักข่าวไทย