สอน.เกาะติดขึ้นภาษีความหวาน

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – สอน.ติดตามผลกระทบจากการขึ้นภาษีความหวาน กรมสรรพสามิตยันรัฐมีมาตรการดูแลอ้อยทั้งระบบ


จากกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องของผลกระทบจากการขึ้นภาษีความหวานอาจทำให้ภาคเอกชนหลายรายเปลี่ยนสูตรการผลิตสินค้า โดยใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ซึ่งในอนาคตจะทำให้ความต้องการอ้อยที่นำมาใช้ผลิตน้ำตาลลดลง หวั่นส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย

นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการ คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวว่า  การบริโภคน้ำตาลทรายภายในประเทศตั้งแต่ปี 2560 มีปริมาณ 2.6 ล้านตัน ปี 2561 มีปริมาณ 2.5 ล้านตัน และปี 2562 จนถึงปัจจุบันมีการบริโภคน้ำตาลทรายตั้งแต่เดือนมกราคม – เดือนกรกฎาคม 1.46 ล้านตัน และคาดว่าจะมีปริมาณการบริโภคปีนี้ประมาณ 2.6 ล้านตัน จะเห็นได้ว่าการบริโภคน้ำตาลทราย 3 ปีที่ผ่านมามีปริมาณใกล้เคียงกัน ซึ่งการบริโภคน้ำตาลทรายภายในประเทศจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ผู้บริโภคโดยตรงและผู้บริโภคโดยอ้อม โดยปริมาณการจำหน่ายน้ำตาลให้กับผู้บริโภคโดยอ้อมเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 2561 มีปริมาณการจำหน่ายอยู่ที่ 580,000 ตัน และปี 2562 อยู่ที่ 570,000 ตัน จะเห็นได้ว่ามีปริมาณใกล้เคียงกันโดยลดลงประมาณ 10,000 ตัน


ทั้งนี้ จากสถานการณ์อ้อยและน้ำตาลของไทยในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีการขยายตัวของพื้นที่ปลูกอ้อยซึ่งมีปริมาณอ้อยเข้าหีบและผลผลิตน้ำตาลสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉลี่ย 12 – 14 % ขณะที่ปริมาณการบริโภคน้ำตาลในประเทศและการส่งออกน้ำตาลมีอัตราการขยายตัวค่อนข้างคงที่ประมาณ 5 – 6% ต่อปี ส่งผลให้ปริมาณสตอกน้ำตาลของไทยสูงขึ้น ประกอบกับราคาอ้อยและราคาน้ำตาลในตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ เป็นแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทย และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของราคาอ้อย   ตกต่ำ การขึ้นภาษีความหวานอาจเป็นเพียงสาเหตุหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภคน้ำตาล ซึ่งปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจรักษาสุขภาพลดการบริโภคน้ำตาลตามกระแสนิยม

สำหรับปัจจุบันการนำอ้อยและผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาลไปต่อยอดในการผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพซึ่งมีมูลค่าสูงถือเป็นทางออกและการเพิ่มมูลค่าและเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลที่ยั่งยืน  ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) จะส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย รวมถึงอุตสาหกรรมชีวภาพอย่างต่อเนื่องและดูแลระบบการแบ่งปันผลประโยชน์ในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลให้เป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ขณะที่กรมสรรพสามิตระบุว่าภาครัฐมีการพิจารณาอุปสงค์และอุปทานของอ้อยทั้งระบบเพื่อลดผลกระทบ โดยมีการวางแผนเพิ่มมูลค่าตลาดทั้งในประเทศและการส่งออกน้ำตาลไปต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมให้มีการเพิ่มมูลค่าของอ้อย โดยให้นำไปใช้ในการผลิตสินค้าอื่น อาทิ เอทานอลเพื่อเป็นพลังงานในประเทศและการส่งออก เป็นต้น ส่วนการใช้สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะดูแลชนิดสารและปริมาณที่เหมาะสมในระดับปลอดภัยต่อผู้บริโภคที่สามารถเติมในเครื่องดื่มได้ ซึ่งต้องพิจารณาปริมาณที่เหมาะสมและดำเนินการควบคุมควบคู่กันไปด้วย.-สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคอีสาน ส่วนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน