กรุงเทพฯ 15 ธ.ค. – บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่ามติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคมที่ผ่านมา อีกร้อยละ 0.25 มาที่กรอบร้อยละ 0.50-0.75 นั้น นอกจากจะเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาดแล้ว ยังเป็นสัญญาณที่ตอกย้ำถึงการดำเนินต่อไปของวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐ หลังจากเฟดทิ้งช่วงการปรับดอกเบี้ยเป็นเวลาเกือบ 1 ปี จากที่มีการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมรอบสุดท้ายของปี 2558
ทั้งนี้ จากภาพรวมของถ้อยแถลงการประชุมท่าทีของประธานเฟดประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐและ Dot Plot ชุดใหม่ ทำให้ประเมินว่ายังคงมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Funds อีกประมาณ 1-2 ครั้งเป็นอย่างน้อยในปี 2560 โดยนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะมีผลต่อจังหวะการคุมเข้มของเฟดปีหน้า อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่มีความชัดเจนมากขึ้นอาจสร้างความผันผวนต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศในตลาดเกิดใหม่อาจเผชิญกับข้อจำกัดในการใช้นโยบายการเงิน เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
สำหรับไทยคาดว่าผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดน่าจะอยู่ในกรอบที่ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากไทยมีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ขณะที่ทุนสำรองฯ และยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม แม้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอาจจะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินนโยบายการเงินของไทยในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้า แต่คงต้องยอมรับว่า วัฏจักรการคุมเข้มดอกเบี้ยของเฟดคงส่งผลให้โอกาสความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อไปลดน้อยลงไปมาก.-สำนักข่าวไทย