กรุงเทพฯ 31 ก.ค.- นายกรัฐมนตรีเปิดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 52 ย้ำ สร้างประชาคมอาเซียน มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง หวังสร้างผลลัพธ์เป็นรูปธรรม สานต่อยังประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 พ.ย.นี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 52 วันนี้ (31 ก.ค.) ที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ มีรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน และประเทศที่ได้รับเชิญ อาทิ สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี สาธารณรัฐเปรู ราชอาณาจักรนอร์เวย์ สาธารณรัฐตุรกี และสมาพันธรัฐสวิส เลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมงาน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า ในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียนปีนี้ มุ่งมั่นสร้างประชาคมอาเซียน ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และก้าวไปสู่อนาคต ภายใต้กรอบแนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” เพื่อจะสร้างประชาคมให้เติบโตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน และเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่างๆ โดยจะร่วมมือร่วมใจกับหุ้นส่วนนอกภูมิภาค ขับเคลื่อนความยั่งยืนในทุกมิติ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อาเซียนได้สร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมที่สำคัญหลายประการ ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา แต่อาเซียนไม่สามารถบรรลุผลได้เพียงลำพัง จะต้องเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาอาเซียน และประเทศนอกภูมิภาค รวมทั้ง เปิดรับความร่วมมือกับภาคีต่างๆ และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศครั้งนี้ เป็นโอกาสดี เพื่อสร้างความต่อเนื่องจากการประชุมต่างๆ และผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ใน 3 แนวทาง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 1. การใช้ประโยชน์จากกลไกที่อาเซียนมีบทบาทนำ และความร่วมมืออาเซียนกับประเทศคู่เจรจา เพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกมิติให้อาเซียน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนอาเซียนทุกคน 2. การส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกัน ด้วยการใช้ประโยชน์จากแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียนฉบับปัจจุบัน กับยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงต่างๆนอกภูมิภาคในมิติต่าง ๆ และ 3. การเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาค ด้วยการเชิญชวนให้มิตรประเทศ มาร่วมมือบนหลักการของ 3M ด้วยการสร้างบรรยากาศที่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน เคารพและเข้าใจในความแตกต่างหลากหลายระหว่างกัน และมุ่งสู่ผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้ง การร่วมกันแก้ไขข้อขัดแย้งโดยสันติวิธี
“หวังให้การประชุมครั้งนี้ นำไปสู่การปฏิบัติ และเป็นรูปธรรม บนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนที่ดีกับมิตรประเทศ องค์กรระหว่างประเทศและภูมิภาค และภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดขึ้นได้ในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ในเดือนพฤศจิกายน 2562” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้ มีผู้แทนจากกว่า 30 ประเทศเข้าร่วม ได้แก่ ประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศคู่เจรจา 10 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน สหภาพยุโรป อินเดีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐเกาหลี รัสเซีย สหรัฐอเมริกา ประเทศสมาชิกการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกนอกเหนือจากประเทศคู่เจรจาอีก 7 ประเทศ คือ บังกลาเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี มองโกเลีย ปากีสถาน ปาปัวนิวกินี ติมอร์-เลสเต และศรีลังกา และประเทศที่ได้รับเชิญในฐานะแขกของประธานอาเซียน ได้แก่ นอร์เวย์ เปรู สวิตเซอร์แลนด์ และตุรกี
นอกจากนี้ จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีในกรอบอนุภูมิภาคอีก 4 การประชุม ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (LMI) ครั้งที่ 12 การประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือแม่น้ำโขง-คงคา ครั้งที่ 10 การประชุมระดับรัฐมนตรีประเทศลุ่มแม่น้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 9 และการประชุมรัฐมนตรีประเทศลุ่มแม่น้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 12 และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง . – สำนักข่าวไทย