ขอนแก่น 29 ก.ค.- ส่งชุดสืบระดับพระกาฬ 3 ชุดตามประกบนำตัวผู้ต้องหาคดีจี้ชิงทอง 437 บาท จากร้านทองในห้างสรรพสินค้าเขตเทศบาลนครขอนแก่น กลับมาดำเนินคดีในไทย หลังพบเบาะแสไปกบดานบ้านภรรยาที่นครหลวงเวียงจันทน์
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายเป็นชาย 2 คน ร่วมกันใช้อาวุธปืนสั้นจี้ร้านทองในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้ทองคำ 437 บาท มูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท ก่อนหลบหนีไป กระทั่งชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ติดตามจับกุมนายไพรวัลย์ ญาบัณฑิต อายุ 53 ปี และนายสุพจน์ เพชรรังษี อายุ 54 ปี ผู้ร่วมขบวนการที่ทำหน้าที่ในการนำทองไปขายและช่วยเหลือผู้ก่อเหตุ ได้ที่บริเวณถนนเลี่ยงเมืองอุดรธานี ส่วนผู้ก่อเหตุบุกเข้าไปจี้ชิงทอง คือ นายชัยมงคล ใจบุญอุปถัมภ์ อายุ 37 ปี และ ส.อ.เรืองศักดิ์ พันธ์ทอง อดีตทหารพลร่ม หนีข้ามไป สปป ลาว
ล่าสุด พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ส่งชุดสืบสวน 3 ชุดทั้งจาก สภ.เมืองขอนแก่น, ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เดินทางไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อร่วมกับตำรวจ สปป ลาว ติดตาม 2 คนร้ายที่ก่อเหตุ และล่าสุดพบเบาะแสสำคัญว่า ทั้งคู่ได้ไปซ่อนตัวที่บ้านภรรยาของ ส.อ.เรืองศักดิ์ ที่นครหลวงเวียงจันทน์ คาดว่าจะนำตัวกลับมารับโทษได้เร็วๆ นี้ และขอให้ประชาชนเชื่อในมั่นในการทำงานของตำรวจ เพราะคดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่อุกอาจ ประชาชนให้ความสนใจ
สำหรับผู้ต้องหา 2 คนแรกที่ถูกสกัดจับควบคุมตัวที่ถนนเลี่ยงเมืองอุดรธานี คือ นายไพรวัลย์ และนายสุพจน์ ถูกคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นตั้งแต่เมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) ส่วนภรรยาของนายไพรวัลย์ ซึ่งถูกควบคุมตัวได้พร้อมกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผล.-สำนักข่าวไทย