กองทัพบก 15 ส.ค. – ทีมโฆษก คสช.เผย “พล.อ.ธีรชัย” ในฐานะเลขาธิการ คสช. ขอบคุณทุกฝ่ายดูแลและควบคุมสถานการณ์เหตุระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ สั่งนอกเครื่องแบบคุมเข้มสถานที่สำคัญ ขณะเดียวกันยืนยันนายกฯ ไม่เคยพาดพิงกลุ่มการเมืองเอี่ยวเหตุระเบิดภาคใต้
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (15 ส.ค.) พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. โดยได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ช่วยกันดูแลเหตุการณ์ระเบิดและวางเพลิงใน 7 จังหวัดภาคใต้ ที่เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 11-12 สิงหาคมที่ผ่านมา จนสามารถควบคุมสถานการณ์ รวมทั้งมีความคืบหน้าในการติดตามผู้ต้องสงสัย โดยกำชับตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนและนำผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว
“ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยสถานที่สาธารณะและพื้นที่ต่าง ๆ นั้น เลขาธิการ คสช.กำชับให้ทุกส่วนยังคงต้องดูแลให้มีความต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ทุกพื้นที่ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจในการเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการรักษาความปลอดภัยและมาตรการเฝ้าระวังที่มีอยู่เดิมให้รัดกุมยิ่งขึ้น รวมทั้งการใช้พนักงานรักษาความปลอดภัยภาคเอกชนและอาสาสมัครระวังภัยประจำท้องถิ่นเข้ามาช่วยเสริมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าสังเกตสิ่งผิดปกติในอาคารสถานที่ที่ตนรับผิดชอบ นอกจากนี้ มอบให้ตำรวจเข้าให้คำแนะนำและให้ความรู้กับภาคเอกชน เจ้าของอาคารสถานที่ ห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยว ให้มีการบริหารจัดการระบบเฝ้าตรวจความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ การอบรมพนักงานรักษาความปลอดภัยให้มีทักษะในการปฏิบัติงาน การใช้และปรับปรุงระบบกล้องวงจรปิดให้เป็นเครื่องมือในการเฝ้าระวังเหตุ” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวด้วยว่า ในส่วน กกล.รส.จะเพิ่มการตรวจตราโดยเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบในการเฝ้าระวังเหตุในพื้นที่ต่าง ๆ ยิ่งขึ้น เพื่อดูแลและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติขออย่าได้เพิกเฉยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้นำชุมชน ทหาร หรือโทร.แจ้ง 191 ได้ทันที
ด้าน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลรูปคดีเพื่อให้การทำงานรัดกุม ซึ่งขณะนี้คดีมีความก้าวหน้าตามลำดับ แต่ขอเวลาในการสืบสวนสอบสวน ก่อนสรุปสาเหตุว่าเป็นฝีมือกลุ่มใด ขอยืนยันว่าจับกุมคนร้ายได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงเหตุระเบิดและเพลิงไหม้มาให้ข้อมูลที่ค่ายทหาร แต่ระบุจำนวนคนไม่ได้ เพราะจะกระทบกับสำนวนคดีของตำรวจ
“ส่วนกรณีมีกลุ่มการเมืองพาดพิงหัวหน้า คสช.และรองหัวหน้า คสช.ที่กล่าวว่าการเมืองอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขอยืนยันว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงยังไม่เคยชี้นำ พาดพิงว่าเป็นกลุ่มใดอยู่เบื้องหลัง เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังดำเนินการในเรื่องคดี ขอให้ประชาชนร่วมกันดูแลบ้านเมืองของเรา หัวหน้า คสช.สั่งการทุกกระทรวง ทบวง กรม ให้ดูแลทุกพื้นที่ให้ปลอดภัย โดยเฉพาะสนามบิน สถานีขนส่ง ห้างสรรพสินค้า และจุดที่มีนักท่องเที่ยวมาก ส่วนที่มีการแชร์พื้นที่เฝ้าระวัง 10 จุด เป็นข้อมูลเก่า ขอให้ยุติการส่งต่อ เพราะสร้างความสับสนให้ประชาชน” พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย