นครนายก 22 ก.ค.- กวางเพศเมียขนาดใหญ่ถูกรถพุ่งชนตายบนถนนในพื้นที่ ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก หลังกระโดดออกมาจากข้างทางตัดหน้ารถ ที่ผ่านมามีประชาชนที่ใช้ถนนเส้นนี้เคยชนกวางมาแล้ว 1 ตัว แต่รอดไปได้ คาดเป็นกวางเลี้ยงที่หลุดออกมาจากฟาร์มฝั่งตรงข้าม
เมื่อเวลาประมาณหลัง 20.00 น.คืนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก ได้รับแจ้งจากกู้ชีพตำบลสาริกา หลังมีรถกระบะสีแดง หมายเลขทะเบียน บฉ 4483 นครนายก ชนกวางเพศเมียขนาดโตเต็มวัยตายอยู่บริเวณก่อนถึงสามแยกสาริกา ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถกระบะอยู่ในสภาพหน้ารถฝั่งด้านคนขับเสียหายจากแรงกระแทก ไฟหน้าและหม้อน้ำแตก จอดอยู่ริมถนน ใกล้กันพบซากกวางขนาดใหญ่ สภาพมีบาดแผลบริเวณหัวหลายจุด และมีซากเอื้องในปากกระจายเต็มพื้น สร้างความสงสารให้ประชาชนที่มามุงดูเป็นอย่างมาก
นายศตวรรษ พุทธา อายุ 23 ปี คนขับรถกระบะที่เกิดเหตุ เล่าว่า กำลังขับรถกลับบ้านในเลนขวา เมื่อถึงที่เกิดเหตุ กวางกระโดดออกมาจากข้างทางกะทันหัน เบรกไม่ทันจึงชน ตนเองใช้เส้นทางนี้มา 5-6 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยเจอกวาง จากการที่สอบถามชาวบ้านทราบว่าแถวนี้มีฟาร์มกวางและกวางที่ออกมานั้นเป็นกวางเลี้ยง เบื้องต้นโทรหาเจ้าของกวาง แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของจะออกมาพบหรือรับผิดชอบหรือไม่ เบื้องต้นต้องแจ้งความไว้ก่อน
นางเรืองศิริ มุขดา แม่คนขับ บอกว่า ผู้ใหญ่บ้านประสานไปยังฟาร์มกวางในพื้นที่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้ความว่าเจ้าของยังไม่ยอมรับว่ากวางที่ถูกชนนั้นเป็นของที่ฟาร์มหรือไม่ และได้บอกกับเจ้าของรถว่ารถมีประกันไหม ให้ไปซ่อมก่อน แล้วตนจะมาดูทีหลัง
ขณะที่นายชวลิตร คำดี อายุ 27 ปี ผู้เคยประสบเหตุการณ์กวางตัดหน้ารถ ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ เล่าว่า ตอนเวลาประมาณ 19.00 น. เมื่อสัปดาห์ก่อน ตนขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามทาง อยู่ดีๆ ก็มีรถเก๋งสีดำสวนเลนมา ขณะนั้นมีกวางขนาดใหญ่วิ่งออกมาจากข้างทาง ตัดหน้ารถเก๋งสีดำ รถเก๋งสีดำจึงชนกวางหักหลบมาเกือบจะเข้ามาชนที่เลนตนเอง ซึ่งกวางที่ถูกชนนั้นกระเด็นมาโดนตนเองที่ช่วงขา จากนั้นกวางนอนนิ่ง เมื่อตนเดินไปดู กวางลุกขึ้นและเดินเข้าป่าข้างทางไป สำหรับพื้นที่ที่ตนประสบเหตุและพื้นที่ที่เกิดเหตุวันนี้ อยู่ในพื้นที่ห่างกันเพียงแค่ 2เ สาไฟฟ้า และกวางที่ตนประสบเหตุนั้นเป็นกวางอีกตัวที่มีเขา
เบื้องต้น เจ้าของรถที่เกิดเหตุแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนครนายก และรอให้เจ้าของกวางเข้ามาติดต่อและแสดงตน เพื่อพูดคุยและตกลงเรื่องค่าเสียหายต่อไป.-สำนักข่าวไทย