กรุงเทพฯ 15 ก.ค.-กทม.ดีเดย์ 3 กันยายนนี้ รื้อบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬ 12 หลังแรกที่สมัครใจ ขณะที่อีก 44 หลัง ยันไม่ออกจากพื้นที่ พร้อมพัฒนาเป็นมหากาฬโมเดล
บ้านไม้เรือนไทยลักษณะ 2 ชั้น อายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่กลางชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร เดิมเป็น “บ้านนวดแผนโบราณ” สร้างสมัยรัชกาลที่ 3 เคยเป็นสถานที่ฝึกสอนนวดกดจุดจับเส้น ปัจจุบันเป็นมรดกตกทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน เมื่อเดินเข้ามาด้านในชุมชน จะพบกับ “บ้านขายน้ำประปา” ลักษณะทรงปั้นหยาประยุกต์ หน้าต่างบานกระทุ้ง ซึ่งเป็นการดัดแปลงสถาปัตยกรรมตะวันตก เดิมบ้านหลังนี้เป็นจุดศูนย์กลางจำหน่ายน้ำให้คนในชุมชนตั้งแต่ปี 2475
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบ้านโบราณที่ตั้งอยู่ภายในชุมชนป้อมมหากาฬ ที่บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมา วิถีชีวิตของคนยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ของชุมชนแห่งนี้ ปลูกด้วยไม้ แม้บางส่วนจะสร้างขึ้นใหม่ก็ตาม เพื่อรักษาพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของชุมชนชานกำแพงพระนครแห่งสุดท้ายที่เหลืออยู่
วันนี้ กทม.ปิดป้ายประกาศขนาดใหญ่ โดยรอบป้อมมหากาฬ ยันเดินหน้ารื้อถอนตามคำสั่งศาล แต่คนส่วนใหญ่ยืดหยัดอยู่ต่อ ขอเดิมพันด้วยชีวิต นางสมพร อาปนนท์ วัย 75 ปี อยู่ที่นี่มาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ค้าขายมานานกว่า 40 ปี ขอใช้ช่วงสุดท้ายของชีวิตที่บ้านหลังนี้
ขณะที่บางส่วนยอมออกจากพื้นที่ เนื่องจากเคารพกฎหมาย แต่ยอมรับยังไม่มีที่ไป แม้เข้าร่วมโครงการจัดหาที่อยู่อาศัยของ กทม. เหตุคุณสมบัติไม่ผ่าน วอน กทม.ช่วยเหลือก่อนรื้อถอน
กทม.ตั้งเป้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายในชุมชนป้อมมหากาฬทั้ง 56 หลังแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ แต่เสียงคนในชุมชนอีก 44 ครัวเรือน 218 ชีวิต ยังคงปักหลักประกอบอาชีพค้าขายเช่นเดิม พร้อมพัฒนาพื้นที่ให้เป็น “มหากาฬโมเดล” พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต เป็นต้นแบบสะท้อนการอยู่ร่วมกันของคนกับโบราณสถาน สามารถอนุรักษ์พื้นที่ทางประวัติศาสตร์ได้อย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย