นนทบุรี 8 ก.ค. – พาณิชย์สวมบทประธาน ATF-JCC ถกแนวทางเร่งอำนวยความสะดวกทางการค้าอาเซียน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จะทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาร่วมด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียน หรือ ATF-JCC ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 10-11 กรกฎาคม 2562 ณ เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อติดตามการดำเนินการตามแผนงานการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียนประจำปี 2562 ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญ 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การดำเนินการตามแนวปฏิบัติว่าด้วยมาตรการที่มิใช่ภาษี (NTMs) ของอาเซียน ซึ่งกำหนดให้มีความโปร่งใส เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ทราบและให้ความเห็นก่อนใช้มาตรการ เพื่อลดมาตรการที่เลือกปฏิบัติและเป็นอุปสรรคต่อการค้า 2. ติดตามและประเมินผลการดำเนินการอำนวยความสะดวกทางการค้าของประเทศสมาชิกอาเซียนให้เป็นไปตามพันธกรณีองค์การการค้าโลก (WTO-TFA) เช่น การจัดตั้งคณะกรรมการแห่งชาติด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้า การเผยแพร่ข้อมูลกฎระเบียบทั้งในรูปแบบสื่อออนไลน์และการจัดตั้งศูนย์ตอบข้อซักถาม และการออกคำวินิจฉัยล่วงหน้า เป็นต้น และ 3. ติดตามการรายงานผลการศึกษาเรื่องระยะเวลาที่แต่ละประเทศใช้ในการตรวจปล่อยสินค้า (Time Released Study) ซึ่งเป็นเครื่องมือในการวัดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของการอำนวยความสะดวกทางการค้าของประเทศสมาชิก
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้จะติดตามความคืบหน้าการเชื่อมโยงระบบการอำนวยความสะดวกทางการค้าต่าง ๆ ของประเทศสมาชิก อาทิ การเชื่อมโยงระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว (ASEAN Single Window) ในส่วนของการแลกเปลี่ยนเอกสารใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (e-Form D) ให้ครบทั้ง 10 ประเทศ ภายในปี 2562 การพัฒนาระบบคลังข้อมูลการค้าของอาเซียน (ASEAN National Trade Repository) ให้ครอบคลุมมาตรการต่าง ๆ อย่างทั่วถึงและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และการปรับระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน (ASEAN-Wide Self-Certification) ให้เป็นระบบเดียวกัน ก่อนเริ่มใช้งานในเดือนมีนาคม 2563
นอกจากนี้ ยังเปิดให้สภาธุรกิจร่วม ประกอบด้วย ผู้แทนจากสภาธุรกิจที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน สภาธุรกิจอียู-อาเซียน และสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน ได้พบหารือกับอาเซียน เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลดต้นทุนในการทำธุรกรรมของผู้ประกอบการ เพื่อส่งเสริมให้การค้าภายในอาเซียนคล่องตัวและขยายตัวได้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย