นครปฐม 7 ก.ค. – ข่าวรับน้องโหดมาอีกแล้ว รอบนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐม รุ่นพี่ ม.6 โรงเรียนชื่อดัง รับน้อง ม.3 โดยใช้เลสข้อมือเป็นสัญลักษณ์ ใครอยากได้ให้มาหาที่บ้านเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกาย สุดท้ายน้อง ม.3 ถูกส่งโรงพยาบาลอาการสาหัส
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก เหน่อ หนองกระโดน ลงเรื่องราวพร้อมภาพประกอบระบุว่า น้องเข้าไปรับเลสข้อมือรุ่น จากรุ่นพี่ ม.6 ไปประมาณ 10 คน โดนทำร้ายประมาณ 3 คน น้องคนนี้โดนเตะหน้าอก จนหายใจไม่ออก ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองไม่ทัน ทำให้นอกจากปอดช้ำแล้วสมองบวมไปด้วย ได้รับแจ้งว่า น้องหัวใจหยุดเต้นไปแล้วสามรอบ ซึ่งพฤติการณ์แบบนี้ ไม่เคยปรากฏพบที่โรงเรียนมาก่อน เป็นการคิดอยากทำและสืบทอดกันเอง รับแจ้งว่าตอนนี้รุ่นพี่ที่ทำร้ายร่างกาย ไม่ได้อยู่ออกมารับผิดชอบ แล้วหนีไปกบดานทางภาคตะวันออก ซึ่งเพจ Anti Sotus ได้มีการแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ วันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา เวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ น้องนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ อยูชั่น ม.3 อายุ 15 ปี โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม เหตุเกิดในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี หลังเกิดเหตุครอบครัวจึงได้ออกมาร้องหาผู้รับผิดชอบ
พี่สาวเผยน้องชายยังอาการสาหัส ปั๊มหัวใจไป 3 รอบ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงพยาบาลนครปฐม พบกับพี่สาวน้องกร อายุ 24 ปี เล่าให้ฟังว่า น้องชายถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุ ตนก็พยายามหาข้อเท็จจริงกับเพื่อนๆ จนทราบว่ารุ่นพี่โรงเรียนเดียวกัน นัดให้น้องชายไปรับเลสข้อมือ ซึ่งมีสัญลักษณะของสถาบันเป็นลักษณะเหมือนการรับน้อง เมื่อไปถึงก็มีการจับคู่เพื่อทดสอบร่างกาย แต่ไม่รู้รุนแรงแค่ไหน น้องชายถึงขนาดหมดสติ ต้องหามส่งโรงพยาบาลห้วยพลู แพทย์ปั๊มหัวใจ 3 รอบ และร่วมกันโกหกว่าน้องชายไปถูกใครไม่รู้ ครุมทำร้ายร่างกาย ซึ่งเมื่อดูจากสภาพร่างกายและเสื้อผ้าผู้ได้รับบาดเจ็บไม่น่าจะถูกรุมทำร้าย และเมื่อสอบถามกับเพื่อนของน้องชายทราบว่าในกลุ่มของรุ่นพี่ที่ร่วมกันรับน้องโหด บางคนเป็นลูกข้าราชการตำรวจ หลังจากเกิดเหตุ ก็ไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ จึงร้องไปที่เพจต่อต้านการรับน้อง เพื่อหาผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ล่าสุด เฟซบุ๊ก เหน่อ หนองกระโดน ออกมาโพสต์อีกว่าวันจันทร์นี้ผู้กระทำผิดจะเข้ามอบตัว และไม่ได้หลบหนีไปไหน
นายธีร์ ภวังคนันท์ หัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยภายหลังการเยี่ยมนักเรียน ม.3 คนดังกล่าวว่า เบื้องต้นเด็กยังรักษาตัวในห้องไอซียูของโรงพยาบาล โดยมีอาการปอดไม่ทำงาน ทำให้สมองไม่ได้รับออกซิเจน จึงต้องอยู่ในการดูเเลของเเพทย์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ในเรื่องของเหตุการณ์สอบสวนเพิ่มเติมทราบว่า ไม่ได้เป็นการรับน้อง เเต่คล้ายเป็นการให้น้องเข้ากลุ่ม หากน้องอยากได้เลสข้อมือให้ดวลพลังกำลังกันในกลุ่มตามภาษาเด็กผู้ชายที่เล่นกัน แต่โชคร้ายเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้เหตุเกิดขึ้นที่บ้านของรุ่นพี่ ม.6 ซึ่งมีพ่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยก่อนเกิดเหตุ ก็เป็นการไปเจอกันของเพื่อนผู้ชายตามปกติ โดยที่มีพ่อเเม่คอยดูเเล เเต่ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนดึกมาก จึงไม่มีใครทราบเรื่องในขณะนั้น
ขณะที่มีกรณีกระเเสข่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปโรงเรียนเพื่อสอบปากคำเด็กเพิ่มเติม และเด็กให้การว่ามีไอโม่งชุดดำมารุมทำร้ายนั้น เข้าใจว่าเด็กกลัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงให้การดังกล่าว เเต่จริงเเล้วไม่มีชายชุดดำมารุมทำร้าย เเต่เป็นการต่อสู้กันระหว่างเพื่อนผู้ชาย ทางโรงเรียนจึงเข้าใจว่าเป็นการทำร้ายเด็กกับคนร้ายนอกโรงเรียน ไม่ใช่เด็กทำร้ายกันเอง จึงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ดังนั้นเมื่อโรงเรียนทราบเเล้วจึงไม่ได้นิ่งเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เเละจะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว .- สำนักข่าวไทย