กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กบง.นัดส่งท้าย รมว.”ศิริ” ติดตามกองทุนน้ำมันฯ รอ รมว.พลังงานคนใหม่ชี้ขาดนโยบายใหม่ ทั้งราคาแอลพีจีและบี 20 หลังราคาแอลพีจีตลาดโลกทรุดฮวบ และบี 20 ยอดใช้เกินเป้าหมาย เงินอุดหนุนทำให้บัญชีดีเซลติดลบ
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ซึ่งมีนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ว่า ราคาแอลพีจีในตลาดโลกเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 365 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จากที่ 3 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่งผลให้เงินอุดหนุนในส่วนที่มาจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญชีน้ำมันปรับตัวลดลง แต่จะส่งผลให้ราคาแอลพีจีขายปลีกในประเทศจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้นจาก กบง.กำหนดว่า ถังครัวเรือน 15 กิโลกรัม (กก.) อยู่ที่ 363 บาทต่อ กก.ต้องขึ้นอยู่กับนโนยายของ รมว.พลังงานคนใหม่ตัดสินใจ
ทั้งนี้ คาดว่าสิ้นเดือนสิงหาคมนี้กองทุนน้ำมันบัญชีแอลพีจีจะติดลบลดลงเหลือติดลบ 6,046 ล้านบาท จาก วันที่ 30 มิถุนายนติดลบ 6,500 ล้านบาท ขณะที่บัญชีน้ำมันคาดจะมีเกือบ 32,000 ล้านบาท ส่งผลให้เงินกองทุนน้ำมันฯ สิ้นเดือนสิงหาคมมีฐานะสุทธิที่ 38,000 ล้านบาท จากที่วันที่ 30 มิถุนายนมีฐานะสุทธิ 35,911 ล้านบาท โดยบัญชีน้ำมันอยู่ที่ 42,011 ล้านบาท ขณะที่ กบง.เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2561 กำหนดกรอบวงเงินเข้าไปดูแลราคาแอลพีจีไม่เกิน 7,000 ล้านบาท
ส่วนนโยบายการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษบี 20 ได้มีการรายงาน กบง.แล้วว่าขณะนี้ยอดการใช้อยู่ที่ประมาณ 4 ล้านลิตรต่อวัน เป็นยอดที่เป็นไปตามเป้าหมายแล้ว ตามข้อกำหนดตามมติ กบง.ที่อุดหนุนด้วยนโยบายราคาบี 20 ต่ำกว่า บี 7 ลิตรละ 5 บาท กำหนดจะอุดหนุนถึงวันที่ 31 กรฎาคม 2562 ซึ่งถือได้ว่าความนิยมของยอดใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยวันนี้ การอุดหนุนในบัญชีดีเซลระหว่างบี 7, บี 10และบี 20 นับว่าสมดุล แต่จากยอดใช้บี 20 เพิ่มขึ้น ประเมินว่ากองทุนน้ำมันบัญชีน้ำมันจะต้องมาอุดหนุนกลุ่มดีเซลถึง 184 ล้านบาท หากอุดหนุนในอัตราสูงต่อไปก็จะเป็นภาระต่อกองทุนน้ำมันฯ ซึ่งก็เป็นนโยบายของ รมว.พลังงานคนใหม่ ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ถ้าไม่ต่ออายุการอุดหนุนเพิ่มเดือนสิงหาคม บี 20 จะต่ำกว่าบี 7 ในอัตราลิตรละ 3 บาท.-สำนักข่าวไทย