กทม. 1 ก.ค.-สาวผู้เสียหายแจ้งความจับหนุ่มขับรถหรูจอดปาดหน้าบนถนนเอกมัยซอย 5 ก่อนถุยน้ำลายใส่รถ ชาวโซเชียลต่างให้ความเห็นว่า อาจเป็นชายคนเดียวกับที่ขับรถปาดหน้ารถของ “หลุยส์ สก๊อต”
เจ้าของเฟซบุ๊ก Arisara Kasemratanapanichl โพสต์คลิปขณะที่ขับรถอยู่บนถนนเอกมัย และได้เจอรถ ยี่ห้อแลนด์โรเวอร์ สีดำ มาจอดขวางทางเธอ ก่อนจะถุยน้ำลายใส่รถ และเดินตรงปรี่เข้ามาหาที่ประตูด้านคนขับ และเคาะกระจก แต่เมื่อเจ้าของรถเปิดกระจก และถามว่า “อะไรคะ” ชายคนดังกล่าวก็พูดขึ้นว่า “อ๋อ ผู้หญิงเหรอ โทษที ขอโทษด้วยนะจ๊ะเบบี๋”
หลังจากคลิปเผยแพร่ออกไป ผู้คนในสังคมออนไลน์ ต่างพูดว่าอาจเป็นชายคนเดียวกับที่เคยก่อเหตุขับรถปาดหน้าและเบรกใส่รถยนต์ของหลุยส์ สก๊อต นักแสดงหนุ่มชื่อดังมาแล้ว เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา บริเวณทางด่วนบางนา ขาเข้า ช่วงออกจากด่านเก็บเงิน ซึ่งนักแสดงชื่อดังได้นำคลิปมาโพสต์ลงอินสตาแกรมไว้ โดยระบุว่าไม่ทราบสาเหตุถึงการกระทำดังกล่าวเช่นกัน จึงมีกระแสเรียกร้องให้ตำรวจติดตามชายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี เนื่องจากเป็นการกระทำที่เป็นภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนน
ล่าสุด วันนี้ นางสาวอริสรา เกษมรัตนพาณิชย์ หญิงสาวผู้เสียหายที่ถูกคนขับรถแลนด์โรเวอร์ถ่มน้ำลายใส่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เนื่องจากเห็นว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เธอเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงกลางดึกวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา บริเวณถนนเอกมัยซอย 5 ขณะขับรถจะเลี้ยวออกจากซอย พบชายดังกล่าวชูนิ้วกลางให้คนข้างถนน ก่อนจอดรถกีดขวางช่องทางจราจร ส่งผลให้รถที่ตามมาต้องหยุดชะงัก หลังชายคนดังกล่าวขับรถมาขวางรถยนต์ แล้วเปิดประตูเดินลงมาจ้องมองรถยนต์ของตนเอง ก่อนถ่มน้ำลายใส่ จากนั้นเดินเข้ามาเคาะกระจกรถตนเองอย่างรุนแรง เมื่อเห็นว่าเป็นผู้หญิงก็พูดว่า “อ๋อ ผู้หญิงเหรอ โทษทีจ้า” ก่อนเดินกลับไปที่รถโดยไม่รู้ที่มาที่ไปของการกระทำ จึงโพสต์คลิปเหตุการณ์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเตือนเพื่อนๆ ให้ระวังชายที่ขับรถลักษณะดังกล่าว
ด้านพันตำรวจเอกนิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า เบื้องต้นเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.จราจร คือ จอดรถกีดขวางทางจราจร ส่วนจะมีความผิดในข้อหาอื่นหรือไม่นั้น ต้องให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ ส่วนจะเป็นรายเดียวกับที่เคยก่อเหตุกับนักแสดงหนุ่มชื่อดังหรือไม่ขอตรวจสอบก่อน แต่ที่สำคัญคืออยากฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ใจเย็นเวลาขับรถ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผิดใจกับเพื่อนร่วมท้องถนน โดยเฉพาะในบริเวณจุดเกิดเหตุที่กำลังมีการก่อสร้างอุโมงค์ ส่งผลให้การจราจรติดจัดอาจทำให้หงุดหงิดไปบ้าง.-สำนักข่าวไทย