ประกันตัวหลานนักการเมืองหัวร้อน ขับเบนซ์ปาดหน้าชักปืนขู่

19 พ.ค. – หนุ่มขับเบนซ์หัวร้อน หลานชายนักการเมืองท้องถิ่นเชียงใหม่ ขับรถปาดหน้าชักปืนขู่คู่กรณีกลางถนน หลังถูกบีบแตรใส่ ตำรวจค้นเจอปืนเต็มบ้าน หลังได้ประกันตัวยังโพสต์รูปปืนและข้อความท้าทาย


กล้องหน้ารถบันทึกภาพเหตุการณ์ที่หนุ่มหัวร้อนขับรถเบนซ์สีดำปาดหน้าขวางถนน ไม่พอใจที่ถูกคู่กรณีซึ่งเป็นหนุ่มลูกครึ่งบีบแตรใส่ เหตุเกิดถนนสายเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ก่อนถึงสี่แยกศาลเด็ก ตัวเมืองเชียงใหม่ และชักอาวุธปืนพกสั้นออกมาข่มขู่ จนคู่กรณีตกใจกลัว และขับรถยนต์เลี่ยงไปอีกทาง ก่อนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.แม่ปิง

ตำรวจตรวจสอบพบว่า หนุ่มหัวร้อนรายนี้ คือ นายสิทธิพัฒน์ วัย 25 ปี ลูกชายเจ้าของร้านทอง และเป็นหลานชายของนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังของเชียงใหม่ จึงนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้าน ที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พบทั้งอาวุธปืนสั้นและยาว 13 กระบอก ซึ่งเป็นของพ่อนายสิทธิพัฒน์ ที่เป็นนักกีฬายิงปืนจำนวน 10 กระบอก แต่บางกระบอกเป็นชื่อบุคคลอื่น และเป็นของนายสิทธิพัฒน์ 3 กระบอก จึงอายัดอาวุธปืนทั้งหมดมาตรวจสอบ และจะให้ สภ.ดอยสะเก็ด ถอนทะเบียนปืนทั้ง 3 กระบอกด้วย


ก่อนญาติจะพาตัวนายสิทธิพัฒน์เข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างไม่พอใจที่ถูกขับปาดหน้าและบีบแตรใส่ ซึ่งถูกดำเนินคดีข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมือง ทางหรือที่สาธารณะในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตและทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ก่อนให้ประกันตัวไป

พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่าผู้ก่อเหตุยอมรับผิด เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกบีบแตรรถใส่ และยกนิ้วกลางให้ จึงโมโหขับรถปาดหน้า แต่กลัวฝ่ายตรงข้ามจะทำร้ายจึงหยิบอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ พร้อมขอโทษคู่กรณี

เพจดังโพสต์หนุ่มหัวร้อนยังโชว์ปืนใน รพ.หลังได้ประกันตัว
ทวิตเตอร์ของเพจ Red Skull ได้นำไอจีสตอรี่ของนายสิทธิพัฒน์หนุ่มหัวร้อนรายนี้ที่ยังโพสต์ภาพอาวุธปืนยาวพร้อมเขียนข้อความ “สุดท้ายหนีไปหาตำรวจ ตำรวจฝั่งกูจบนะ กูบอกตำรวจว่าถ้ามันจะเอากูเข้าคุกอะ กูจะยิงมึงลงหลุมก่อน แล้วกูค่อเข้าไม่งั้นกูไม่เข้าฟรีหรอก (ปืนไรอยู่ครบ) ไอ่กากเอ้ย หนีอย่างหมาแล้วมาหาเรื่องกูก่อน”


นอกจากนี้ยังเผยแพร่ภาพผู้ต้องหารายนี้ที่โพสต์โชว์อาวุธปืนสั้นเหน็บอยู่ที่เอว ขณะที่ไปรอพบหมอในโรงพยาบาลชื่อดังของเชียงใหม่ด้วย คลิปนี้มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก หวั่นไม่ปลอดภัย เพราะเป็นสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก เกรงจะเกิดการยิงกราดหรือก่อเหตุรุนแรงขึ้น

รพ.เตรียมแจ้งความหลานนักเมืองโชว์ปืน
ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว เรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการป้องกัน และเตรียมเข้าแจ้งความกับหนุ่มเบนซ์รายนี้เพิ่มเติมด้วย ซึ่งหากมีการแจ้งความเพิ่มจะกลายเป็นคู่กรณีรายที่ 3 ของหนุ่มเบนซ์หัวร้อนรายนี้ หลังเมื่อเย็นวานนี้ นักศึกษาหนุมวัย 20 ปี เข้าแจ้งความ สภ.แม่ปิง ถูกนายสิทธิพัฒน์พร้อมพวกอีก 2 คน ขับรถปาดหน้า ลงมาด่าและขู่ยิงทิ้งก่อนจะทุบรถ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นคู่กรณีรายที่ 2 มาแล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สร้อยเพชรโลตัส

2 รัฐมนตรี “พิชัย” ปฏิเสธ ลั่นไม่เกี่ยวรับจำนำสร้อยเพชรโลตัส

2 รัฐมนตรี “พ” ยืนยันไม่รู้เรื่องสร้อยเพชรเส้นเดียวในโลกของ เมย์-วาสนา หลังมีข่าว ดิว-อริสรา เอาไปจำนำกับรัฐมนตรีอักษรย่อ “พ”

รอง ผบก.ป.เผยพร้อมออกหมายจับ “ดิว” หากมีพฤติกรรมหลบหนี

รอง ผบก.ป. ระบุจ่อพิจารณาออกหมายจับ “ดิว” หากมีพฤติกรรมหลบหนี ส่วนผู้ครอบครองทรัพย์สิน หากไม่ส่งทรัพย์สินคืนเป็นของกลาง เสี่ยงผิด รับของโจร

ตม.เผยมีการประสานขอข้อมูล “ดิว” บินออกนอกประเทศ

ตม.เผยมีการประสานขอข้อมูล “ดิว อริสรา” บินออกนอกประเทศ พร้อมคุมตัวตามขั้นตอนหากพบผู้ถูกกล่าวหาเดินทางเข้าไทย

สพฐ.สั่งเด้ง ผอ.รร.ในกาฬสินธุ์ ถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

สพฐ.สั่งเด้ง ผอ.โรงเรียนในจังหวัดกาฬสินธุ์และ ผอ.เขตพื้นที่ฯ เข้า สพฐ.ชั่วคราว หลังถูกร้องเรียน ผอ.โรงเรียน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับครูในโรงเรียน

ข่าวแนะนำ

กองปราบฯ ลุยสอบเส้นเงิน “ดิว อริสรา”

กองปราบฯ ลุยตรวจเส้นทางเงิน “ดิว อริสรา” กรณีนำของหรูกว่า 62 ล้านบาท ไปขายใช้หนี้ 22 ล้านบาท พร้อมประสาน “ซุง ศตาวิน” เข้าให้ปากคำ ด้าน “ดิว อริสรา” โพสต์ขอโทษทุกการกระทำ ยอมรับผิดทั้งหมด

นายกฯ ชื่นชมตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติด 7 คดีใหญ่

นายกฯ บินนครสวรรค์ ชื่นชมตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติด 7 คดีใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 20 ล้านเม็ด เร่งรัดเครื่องเอกซเรย์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ลั่นปราบยาเสพติดเข้มข้นครบวงจร ขอให้มั่นใจไม่มีวนของกลาง พร้อมพิจารณางบสร้างขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

ก.คมนาคม แจ้งความผู้รับเหมาปมคานทรุดตัว

กระทรวงคมนาคมเข้าร้องทุกข์ สน.บางมด ดำเนินคดีผู้รับเหมาทั้งแพ่ง-อาญา เหตุคาน “ทางด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง” ทรุดตัว พร้อมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ได้ข้อสรุปภายใน 20 วัน ขณะที่ปัจจุบันได้ตั้งทีมพิเศษสแกนความปลอดภัยทุกโปรเจกต์ใหญ่ทั่วประเทศ ให้ DSI เข้ามาตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง