กรุงเทพฯ 29 มิ.ย.- เงินบาท 30.62 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 ปีครั้งใหม่ ตลาดหุ้นดัชนีราคาหุ้นดีดขึ้นตามแรงซื้อต่างชาติ
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 6 ปีครั้งใหม่ที่ 30.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางการคาดการณ์ถึงโอกาสการลดดอกเบี้ยในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนก.ค.นี้ อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ตามการปรับโพสิชันของนักลงทุน ก่อนที่จะแข็งค่ากลับมาอีกครั้งหลังผลการประชุม กนง. ซึ่งมีมติยืนดอกเบี้ยที่ระดับร้อยละ 1.75 ตามเดิม ประกอบกับตลาดรอติดตามผลเจรจาทางการค้าของสหรัฐฯ-จีนนอกรอบการประชุม G20 ในวันศุกร์ (28 มิ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 30.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (21 มิ.ย.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (1-5 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.50-30.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยในประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ขณะที่จุดสนใจในต่างประเทศ น่าจะอยู่ที่ ประเด็นด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน สัญญาณดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่เฟด และการประชุมของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชน ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมิ.ย. และยอดคำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค.
ส่วนสรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นไทยแตะระดับสูงสุดรอบ 9 เดือนที่ 1,735.88 จุด ก่อนจะกลับมาปิดปลายสัปดาห์ที่ 1,730.34 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.77 จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 62,353.80 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17.02 จากสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.19 จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 363.58 จุด ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ด้วยแรงหนุนจากแรงซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับความคาดหวังเชิงบวกต่อประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน นอกรอบการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ (28-29 มิ.ย.) เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ลดช่วงบวกลงเล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิเล็กน้อยก่อนผลประชุม G20
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (1-5 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,715 และ 1,700 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,740 และ 1,765 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน นอกรอบการประชุม G20 (28-29 มิ.ย.) การประชุมโอเปก (1-2 ก.ค.) สถานการณ์ในตะวันออกกลาง รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือนมิ.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI เดือนมิ.ย. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น -สำนักข่าวไทย