ชาวฝรั่งเศสเข้ารักษาโควิด-19 มากที่สุดในรอบ 6 เดือน
ฝรั่งเศสมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน
ฝรั่งเศสมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน
เงินบาท 30.62 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 ปีครั้งใหม่ ตลาดหุ้นดัชนีราคาหุ้นดีดขึ้นตามแรงซื้อต่างชาติ
กรุงเทพฯ 12 ส.ค.- ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนในเดือนก.ค. 2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบครึ่งปี จากมุมมองที่ดีขึ้นในเรื่องของรายได้และการมีงานทำ ในขณะที่ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงจากความกังวลในเรื่องสภาพดินฟ้าอากาศและสถานการณ์น้ำ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ในเดือนก.ค. 2561 ว่า ดัชีน KR-ECI ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน จากเดิมที่ระดับ 44.7 ในเดือนมิ.ย. มาอยู่ที่ระดับ 45.1 ในเดือนก.ค. 2561 เนื่องจากครัวเรือนมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อประเด็นในเรื่องของรายได้และการมีงานทำ ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากครัวเรือนนอกภาคเกษตรกรรมบางส่วนได้รับค่าตอบแทนพิเศษ (โบนัส) ในช่วงกลางปี ในขณะที่ภาคเกษตรกรรมเข้าสู่ช่วงฤดูเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวในหลายสินค้าเกษตร ทำให้มีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งช่วยหนุนรายได้ครัวเรือนเกษตรให้ปรับตัวดีขึ้นในอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ มุมมองของครัวเรือนที่เป็นบวกมากขึ้นต่อเรื่องรายได้และการมีงานทำยังสอดคล้องไปกับตัวเลขการจ้างงานของประเทศที่ในเดือนก.ค. 2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 651,970 อัตรา และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 260,500 อัตรา แต่ครัวเรือนยังมีความกังวลลดลงต่อประเด็นเรื่องสถานการณ์ทางด้านราคาสินค้าและบริการภายในประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของราคาอาหารและเครื่องดื่มที่ครัวเรือนมองว่าปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนมิ.ย. 2561 สอดคล้องไปกับดัชนีราคาผู้บริโภคในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ที่ในเดือนก.ค. 2561 ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.33 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า […]
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.55-32.90 หลังอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือน
รมว.ท่องเที่ยว ยืนยันงบจัดแข่งโมโตจีพีคุ้มค่า พร้อมเผยตัวเลขท่องเที่ยวไทย 6 เดือน (ต.ค.59-27มี.ค.60)ขยายตัวต่อเนื่อง เม็ดเงินสะพัดกว่า1.33ล้านล้านบาท