สพฐ.25 มิ.ย.-เลขา กพฐ.เผยเกณฑ์การรับนักเรียนปี 63 เบื้องต้นยึดหลักกระจายอำนาจ ให้เขตพื้นที่ออกเเบบจัดการภายใต้กรอบสพฐ.คาดเสร็จทันก.ย.นี้
นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สพฐ.ได้ประชุมรับฟังความคิดเห็นแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัด สพฐ.ปีการศึกษา 2563 โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมให้ข้อเสนอแนะ ได้แก่ ผู้แทนคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)สมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทย ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียนทั้งโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง โรงเรียนวัตถุประสงค์พิเศษ และโรงเรียนทั่วไป
ที่ประชุมได้ข้อสรุปเบื้องต้นที่ถือเป็นการหลักการในการจัดทำร่างนโยบายและแนวปฏิบัติการรับนักเรียน ว่าให้ยึดหลักการกระจายอำนาจและความรับผิดชอบให้พื้นที่เป็นฐาน โดยคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) สพท.ซึ่งรู้บริบทของโรงเรียนในพื้นที่จะเข้ามีบทบาทมากขึ้น ขณะเดียวกัน ตนจะเสนอ รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่ด้วยว่า ขอให้มีการปรับปรุงกลไกการบริหารใน กศจ.โดยเพิ่ม ผอ.สพท.เข้าไปเป็นกรรมการด้วย เพื่อสามารถร่วมวางแผนและแก้ไขปัญหาการรับนักเรียนได้ทันทีซึ่งตรงนี้เป็นข้อเรียกร้องจาก ผอ.สพท.ด้วย ต้องยึดหลักความเสมอภาค โอกาสทางการศึกษา และคุณภาพของนักเรียน กระบวนการรับนักเรียนเป็นไปอย่างโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาลเน้นการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นของผู้ปกครอง ชุมชนและสถานศึกษาสังกัดอื่น คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่จัดทำแผน ระบบการติดตามตรวจสอบ แก้ไขปัญหาและช่วยเหลือดูแลรับผิดชอบผู้เรียนให้มีที่เรียนครบทุกคน ขณะที่ส่วนกลางจะมีกำหนดกรอบนโยบายกว้างๆและกำหนดปฏิทินการรับนักเรียน
หลักการสำคัญที่เห็นร่วมกัน คือการรับนักเรียนปีหน้าจะเน้นกระจายความรับผิดชอบไปยังระดับพื้นที่มากขึ้นเพราะรู้จักสภาพปัญหา บริบทของพื้นที่ดีกว่า ส่วน สพฐ.จะเป็นเพียงกำหนดนโยบายกว้างๆเป็นกรอบที่ให้พื้นที่ โรงเรียนไปดำเนินการ ซึ่งจากนี้ยังมีรายละเอียดต่างๆ ที่ต้องไปหารือร่วม กันหลายประเด็น เช่น การรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ ที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับลดจาก 7 ประเภทเหลือ 4 ประเภท ก็อาจจะมีการทบทวนอีกครั้งหนึ่งว่าควรจะกำหนดอย่างไรให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนในแต่ละพื้นที่
รวมถึงเรื่องจำนวนนักเรียนต่อห้องของโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง ซึ่งกำหนดไว้ 40 คนต่อห้อง แต่ไม่เกิน 45 คนต่อห้อง ก็จะมีการไปวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียด้วยว่าการกำหนดเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่ หรือควรจะต้องปรับปรุงจุดใดหรือไม่ เช่นเดียวกับการรับระดับอนุบาล 3 ขวบที่จะต้องเป็นไปตามนโยบายที่มุ่งกระจายให้ท้องถิ่นเข้ามาดูแลมากขึ้น
ส่วน สพฐ.จะดูแลเด็ก 4 ขวบขึ้นไปยกเว้นในพื้นที่ที่ไม่โรงเรียนของท้องถิ่นรองรับ สพฐ.ก็จะดูแลเอง อย่างไรก็ตาม ประเด็นเหล่านี้จะต้องหารือและนำเสนอที่ประชุม กพฐ.และรมว.ศึกษาธิการ คนใหม่พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แต่ สพฐ.จะเร่งดำเนินการจัดทำประกาศ สพฐ.เรื่อง นโยบายและแนวปฏิบัติการรับนักเรียน สังกัด สพฐ. ปีการศึกษา 2563 และประกาศให้ทราบภายในเดือนก.ย.2562 .-สำนักข่าวไทย
