อย.25 มิ.ย.-ตรวจพิสูจน์ยาเสพติดให้โทษของกลางอย่างโปร่งใส กว่า16,467 กิโลกรัม ก่อนนำไปเข้าเตาเผาด้วยความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงมาก ไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส ส่วนของกลางที่คดียังไม่สิ้นสุดอีกกว่า 147,602 กิโลกรัม จะเก็บรักษาไว้ในคลังยาด้วยระบบป้องกันนิรภัยอย่างรัดกุมเพื่อรอการนำไปทำลายต่อไป
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ได้ทำการตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลางที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งหรือพิพากษาให้ริบของกลางก่อนส่งเข้าเตาเผา จำนวนรวมกว่า 16,467 กิโลกรัม จาก 6,910 คดี มูลค่ารวมกว่า 20,047 ล้านบาท โดยคณะทำงานตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลาง ประกอบด้วยหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพบก และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ร่วมกันตรวจพิสูจน์ยาเสพติด
โดยปีนี้แบ่งการตรวจรับออกเป็น 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 วันที่ 25 มิ.ย.น้ำหนักกว่า 7 ตัน ณ บริเวณคลังยาเสพติดให้โทษของกลาง (ใหม่) อาคาร 6 ชั้น 1ตึก อย. ซึ่งจะนำไปเผาทำลาย ในวันที่ 26 มิ.ย. และครั้งที่ 2 วันที่ 4 ก.ค. น้ำหนักกว่า 9 ตัน ณ บริเวณคลังยาเสพติดให้โทษของกลาง(เก่า)อาคาร 2 ชั้น 1 ตึก อย.ซึ่งจะนำไปเผาทำลายในวันที่ 5 ก.ค.ณ ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า มีน้ำหนักมากที่สุดถึง 12,369 กิโลกรัมและเผาทำลายด้วยวิธีไพโรไลติก อินซิเนอะเรชั่น (Pyrolytic Incineration) ซึ่งเป็นการเผาที่อุณหภูมิสูงมากไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส
ส่วนยาเสพติดที่คงเหลือไว้ในคลังอีกรวมกว่า 147,602 กิโลกรัม นั้น จะเก็บรักษาไว้ในคลังยาด้วยระบบป้องกันนิรภัยอย่างรัดกุม เข้มงวด รอให้คดีสิ้นสุดและมีคำพิพากษาแล้ว ก็จะนำไปเผาทำลายต่อไป
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจพิสูจน์ยาเสพติดดังกล่าวนี้ เพื่อจะทำให้ทราบน้ำหนัก ลักษณะและประเภทของยาเสพติด พร้อมทั้งสุ่มตัวอย่างเพื่อตรวจเบื้องต้นว่าเป็นยาเสพติดจริง จากนั้นจะส่งตรวจวิเคราะห์ทางวิชาการให้ทราบชนิด ปริมาณ แล้วห่อหุ้มยาเสพติดให้โทษของกลางที่ผ่านตรวจสอบแล้วบรรจุลงหีบห่อ ติดหมายเลข โดยจะมีคณะทำงานตรวจรับยาเสพติดลงลายมือชื่อกำกับไว้ทุกหีบห่อ
จากนั้นจะเก็บไว้เป็นสัดส่วน โดยติดเทปกระดาษที่ลงลายมือชื่อของคณะ ทำงานตรวจรับกำกับไว้ที่ประตูคลัง เมื่อเสร็จแล้วคณะกรรมการเก็บรักษาจะถือกุญแจคลังยาเสพติด ซึ่งจะมอบให้ประธานคณะทำงานตรวจรับ คือ นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นผู้ถือกุญแจเอาไว้ และในวันที่ 26 มิ.ย.62 เวลา 05.00 น. ประธานคณะกรรมการตรวจรับจะเป็นผู้มาเปิดประตูคลัง ด้วยการตัดเทปกระดาษที่ปิดไว้ออก เพื่อนำยาเสพติดของกลางที่ตรวจรับไว้แล้ว ส่งมอบให้คณะทำงานขนย้ายยาเสพติด ให้โทษของกลาง ที่มี พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน พร้อมร่วมกันลงลายมือชื่อในหนังสือตรวจรับยาเสพติดให้โทษของกลาง และนำยาเสพติดไปเผาทำลายต่อไป .-สำนักข่าวไทย