ปตท. ปรับแผนลงทุน62 มุ่งเน้นธุรกิจพลังงานสะอาด-โครงสร้างพื้นฐาน สู่ความยั่งยืน

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย.-ข่าวร้าย! น้ำมันไทยปรับราคาขึ้นพรุ่งนี้ หวั่นความตึงเครียดตะวันออกกลาง ด้านปตท.ปรับเม็ดเงินลงทุนเพิ่มปีนี้กว่าแสนล้านบาท 


สถานการณ์ความความตรึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ก็นับว่าเป็นการกดดันต่อเศรษฐกิจโลกต่อเนื่องจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน สิ่งที่ตอบสนองรวดเร็วที่สุด คือตลาดโภคภันฑ์น้ำมันและทองคำ และมีผลมายังประเทศไทย ราคาน้ำมันขายปลีกของไทยปรับขึ้นพรุ่งนี้ 40 สตางค์/ลิตร หลังราคาตลาดโลกขยับสูงขึ้น วานนี้กว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และวันนี้กระทรวงพลังงานได้ประชุมรองรับสถานการณ์ ซักซ้อมตามแผนที่เตรียมไว้ โดยขณะนี้มีปริมาณสำรองน้ำมันคงเหลือพอใช้ภายในประเทศได้ 49 วัน


อีกด้านหนึ่งนักลงทุนต่างไปหาสินทรัพย์ที่เสี่ยงน้อยที่สุด ก็คือทองคำประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดส่งสัญญาณชัดเจนที่จะปรับลดดอกเบี้ย ก็ส่งผลให้ราคาทองคำตลาดโลกสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี ขึ้นไปแตะที่ 1,393 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่วนราคาในไทยวันนี้ราคาเปลี่ยนแปลงถึง 7 รอบ โดยทองคำแท่งสูงสุดของวันนี้อยู่ที่ 20,450 บาท นับป็นราคาสูงสุดในรอบปี วันนี้ที่ร้านทองก็คึกคักมีคนไปขายทำกำไรจำนวนมาก และล่าสุดราคาปิดตลาดทองคำแท่งที่บาทละ20,250 บาท เพิ่มขึ้น 50 บาทจากวานนี้ การที่ทองคำไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากนักก็มาจากบาทไทยแข็งค่าในรอบ 6 ปี โดยอยู่ที่ระดับ 30.84 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ตลาดมองว่าราคาทองคำตลาดโลกปีนี้มีโอกาสจะขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และราคาทองคำในประเทศมีโอกาสถึง 21,000 บาท


ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปิดลบในช่วงท้าย และปิดตลาดลดลง 0.68  จุด หลังจากหุ้นไทยปิดเขียวต่อเนื่องมา 3 วันเลยทีเดียว บาทที่แข็งค่าขึ้นแม้เป็นผลดีต่อสินค้านำเข้า แต่ในแง่การส่งออกสินค้าจะแพงขึ้น ก็อาจจะกระทบต่อการส่งออกอีก นอกเหนือปัจจัยสงครามการค้า ที่ทำให้ตัวเลขการส่งออกเดือนพฤษภาคมเปิดเผย โดยกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ติดลบร้อยละ 5.79 และ 5 เดือนแรกปีนี้ของปีนี้ ส่งออกไทยติดลบรวมร้อยละ 2.7 ขณะที่การส่งออกในช่วงที่เหลือหลังจากนี้ในแต่ละเดือนจะต้องทำให้ได้เกินเดือนละ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงจะทำให้การส่งออกของประเทศเป็นบวกได้  

โดยกระทรวงพาณิชย์วางแผนเจาะตลาดทุกภาคอย่างใกล้ชิด และยังคาดหวังว่าปีนี้การส่งออกจะขยายตัวไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 หรือคิดเป็นมูลค่า 260,184 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นโจทย์ใหญ่ของ ครม.ใหม่ที่ต้องมารับมือ อีกแง่หนึ่งก็คือ การกระตุ้นการลงทุนในประเทศ ของภาครัฐและภาคเอกชน โดยพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี เป็นพื้นที่หลักที่จะมีการลงทุน ล่าสุดนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี คาดปีนี้ยอดลงทุนจะเพิ่มเป็น 4 แสนล้านบาทจากเดิมที่ประมาณการที่ 3 แสนล้านบาท โดยวันจันทร์ที่ 24 มิ.ย.นี้ คณะกรรมการอีอีซี จะประชุมและพิจารณาโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 ส่วนอีก 2 โครงการคือ โครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และเมืองการบิน คาดว่าจะใช้เวลา อีก 1 เดือน จึงจะนำเสนอต่อบอร์ด อีอีซีได้ ซึ่งจะช่วยยกระดับความมั่นใจภาคเอกชนเพิ่มขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง 

ด้านนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือ ซีอีโอ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า บอร์ด ปตท.วานนี้ ได้ทบทวนแผนการลงทุน ของปตท. และบริษัทย่อยที่ปตท. ถือหุ้น 100% และอนุมัติให้ปรับเพิ่มแผนการลงทุนสําหรับปี 2562 จากจํานวน 70,501 ล้านบาทเป็น 103,697 ล้านบาท มุ่งเน้นการลงทุนบริษัทในเครือ โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่อีอีซี เช่ย การขยายธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานทดแทน โครงการโรงไฟฟ้าในโครงการขยายกำลังกลั่นของไทยออยล์ ลงทุนโดย จีพีเอสซี, โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 จะเร่งจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ GULFจะเริ่มลงทุนในไตรมาส 4  ของปีนี้, พร้อมเร่งแสวงหาโอกาสในการเรียนรู้เทคโนโลยีและตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนต้นแบบด้านเครื่องจักรกล และปัญญาประดิษฐ์  (Robotics/AI) หรือการลงทุนในรูปแบบ Venture Capital เพื่อการเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ปตท. อยู่ระหว่างการพิจารณาทิศทางกลยุทธ์ขององค์กร และเตรียมปรับ Portfolio ของการลงทุนในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยเน้นการพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในพลังงานสะอาด ตลอดจนการดำเนินธุรกิจที่ช่วยสนับสนุนให้สังคมและชุมชนอยู่ได้อย่างยั่งยืนโดยปตท. เตรียมนำแผนการลงทุนระยะยาวดังกล่าว เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. ในเดือนธันวาคม 2562 ต่อไป

และสำหรับการดำเนินการของ กลุ่ม ปตท.ที่มีการปรับให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เหมาะสม มีการบริหารความเสี่ยงที่เข้มข้น ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจที่ สร้างรายได้นำส่งรัฐบาลสูงสุดในช่วง 8 เดือนของปีงบประมาณ 2562 หรือตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ โดยนำส่งรวม 29,198 ล้านบาท จากเงินรัฐวิสาหกิจที่นำส่งภาครัฐรวม 138,755 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการเงินนำส่งรายได้แผ่นดินสะสม 10,715 ล้านบาท หรือร้อยละ 8 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]