ปตท. ปรับแผนลงทุน62 มุ่งเน้นธุรกิจพลังงานสะอาด-โครงสร้างพื้นฐาน สู่ความยั่งยืน

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย.-ข่าวร้าย! น้ำมันไทยปรับราคาขึ้นพรุ่งนี้ หวั่นความตึงเครียดตะวันออกกลาง ด้านปตท.ปรับเม็ดเงินลงทุนเพิ่มปีนี้กว่าแสนล้านบาท 


สถานการณ์ความความตรึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ก็นับว่าเป็นการกดดันต่อเศรษฐกิจโลกต่อเนื่องจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน สิ่งที่ตอบสนองรวดเร็วที่สุด คือตลาดโภคภันฑ์น้ำมันและทองคำ และมีผลมายังประเทศไทย ราคาน้ำมันขายปลีกของไทยปรับขึ้นพรุ่งนี้ 40 สตางค์/ลิตร หลังราคาตลาดโลกขยับสูงขึ้น วานนี้กว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และวันนี้กระทรวงพลังงานได้ประชุมรองรับสถานการณ์ ซักซ้อมตามแผนที่เตรียมไว้ โดยขณะนี้มีปริมาณสำรองน้ำมันคงเหลือพอใช้ภายในประเทศได้ 49 วัน


อีกด้านหนึ่งนักลงทุนต่างไปหาสินทรัพย์ที่เสี่ยงน้อยที่สุด ก็คือทองคำประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดส่งสัญญาณชัดเจนที่จะปรับลดดอกเบี้ย ก็ส่งผลให้ราคาทองคำตลาดโลกสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี ขึ้นไปแตะที่ 1,393 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่วนราคาในไทยวันนี้ราคาเปลี่ยนแปลงถึง 7 รอบ โดยทองคำแท่งสูงสุดของวันนี้อยู่ที่ 20,450 บาท นับป็นราคาสูงสุดในรอบปี วันนี้ที่ร้านทองก็คึกคักมีคนไปขายทำกำไรจำนวนมาก และล่าสุดราคาปิดตลาดทองคำแท่งที่บาทละ20,250 บาท เพิ่มขึ้น 50 บาทจากวานนี้ การที่ทองคำไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากนักก็มาจากบาทไทยแข็งค่าในรอบ 6 ปี โดยอยู่ที่ระดับ 30.84 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ตลาดมองว่าราคาทองคำตลาดโลกปีนี้มีโอกาสจะขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และราคาทองคำในประเทศมีโอกาสถึง 21,000 บาท


ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปิดลบในช่วงท้าย และปิดตลาดลดลง 0.68  จุด หลังจากหุ้นไทยปิดเขียวต่อเนื่องมา 3 วันเลยทีเดียว บาทที่แข็งค่าขึ้นแม้เป็นผลดีต่อสินค้านำเข้า แต่ในแง่การส่งออกสินค้าจะแพงขึ้น ก็อาจจะกระทบต่อการส่งออกอีก นอกเหนือปัจจัยสงครามการค้า ที่ทำให้ตัวเลขการส่งออกเดือนพฤษภาคมเปิดเผย โดยกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ติดลบร้อยละ 5.79 และ 5 เดือนแรกปีนี้ของปีนี้ ส่งออกไทยติดลบรวมร้อยละ 2.7 ขณะที่การส่งออกในช่วงที่เหลือหลังจากนี้ในแต่ละเดือนจะต้องทำให้ได้เกินเดือนละ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงจะทำให้การส่งออกของประเทศเป็นบวกได้  

โดยกระทรวงพาณิชย์วางแผนเจาะตลาดทุกภาคอย่างใกล้ชิด และยังคาดหวังว่าปีนี้การส่งออกจะขยายตัวไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 หรือคิดเป็นมูลค่า 260,184 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นโจทย์ใหญ่ของ ครม.ใหม่ที่ต้องมารับมือ อีกแง่หนึ่งก็คือ การกระตุ้นการลงทุนในประเทศ ของภาครัฐและภาคเอกชน โดยพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี เป็นพื้นที่หลักที่จะมีการลงทุน ล่าสุดนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี คาดปีนี้ยอดลงทุนจะเพิ่มเป็น 4 แสนล้านบาทจากเดิมที่ประมาณการที่ 3 แสนล้านบาท โดยวันจันทร์ที่ 24 มิ.ย.นี้ คณะกรรมการอีอีซี จะประชุมและพิจารณาโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 ส่วนอีก 2 โครงการคือ โครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และเมืองการบิน คาดว่าจะใช้เวลา อีก 1 เดือน จึงจะนำเสนอต่อบอร์ด อีอีซีได้ ซึ่งจะช่วยยกระดับความมั่นใจภาคเอกชนเพิ่มขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง 

ด้านนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือ ซีอีโอ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า บอร์ด ปตท.วานนี้ ได้ทบทวนแผนการลงทุน ของปตท. และบริษัทย่อยที่ปตท. ถือหุ้น 100% และอนุมัติให้ปรับเพิ่มแผนการลงทุนสําหรับปี 2562 จากจํานวน 70,501 ล้านบาทเป็น 103,697 ล้านบาท มุ่งเน้นการลงทุนบริษัทในเครือ โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่อีอีซี เช่ย การขยายธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานทดแทน โครงการโรงไฟฟ้าในโครงการขยายกำลังกลั่นของไทยออยล์ ลงทุนโดย จีพีเอสซี, โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 จะเร่งจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ GULFจะเริ่มลงทุนในไตรมาส 4  ของปีนี้, พร้อมเร่งแสวงหาโอกาสในการเรียนรู้เทคโนโลยีและตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนต้นแบบด้านเครื่องจักรกล และปัญญาประดิษฐ์  (Robotics/AI) หรือการลงทุนในรูปแบบ Venture Capital เพื่อการเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ปตท. อยู่ระหว่างการพิจารณาทิศทางกลยุทธ์ขององค์กร และเตรียมปรับ Portfolio ของการลงทุนในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยเน้นการพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในพลังงานสะอาด ตลอดจนการดำเนินธุรกิจที่ช่วยสนับสนุนให้สังคมและชุมชนอยู่ได้อย่างยั่งยืนโดยปตท. เตรียมนำแผนการลงทุนระยะยาวดังกล่าว เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. ในเดือนธันวาคม 2562 ต่อไป

และสำหรับการดำเนินการของ กลุ่ม ปตท.ที่มีการปรับให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เหมาะสม มีการบริหารความเสี่ยงที่เข้มข้น ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจที่ สร้างรายได้นำส่งรัฐบาลสูงสุดในช่วง 8 เดือนของปีงบประมาณ 2562 หรือตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ โดยนำส่งรวม 29,198 ล้านบาท จากเงินรัฐวิสาหกิจที่นำส่งภาครัฐรวม 138,755 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการเงินนำส่งรายได้แผ่นดินสะสม 10,715 ล้านบาท หรือร้อยละ 8 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย

เก๋งแต่งซิ่ง เสียหลักพุ่งชนยับ 10 คันรวดบนทางด่วน

กทม. 16 ส.ค.-เก๋งแต่งซิ่งประลองความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกันยับ 10 คันรวดบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าของรถบีเอ็ม เล่านาทีถูกชน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน บนทางด่วนช่วงทางขึ้นเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน โดยภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งบันทึกภาพเวลา 00.59 น.วันนี้ (16 ส.ค.68) รถเก๋งสีขาวจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วก่อนเกิดการชนกัน ทำให้รถเสียหลักหมุน ก่อนจะถูกรถเก๋งที่ขับตามมาพุ่งชนซ้ำอีกหลายคัน บางคันเกือบตกทางด่วน หลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแต่งซิ่งประมาณ 10 คัน บางคันเป็นรถหรูราคาแพง ได้รับความเสียหายยับเยิน กีดขวางทั้ง 2 ช่องจราจร มีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์ที่แตกและหลุดกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปากเกร็ดและเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษได้ประสานรถยกเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกพร้อมทำความสะอาดคราบน้ำมันและชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเปิดการจราจรใช้เวลากว่า 3 ชม. จากการสอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี เจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ที่ถูกชนกล่าวว่า ตนขับรถไปรับแฟนมาจากที่ทำงาน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านย่านธรรมศาสตร์รังสิต ขณะที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวา เห็นรถเก๋งสีขาวที่ขับตามมาด้วยความเร็ว ตนจะเปลี่ยนเลนหลบไปในช่องทางซ้าย แต่ก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักหมุน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถอีกคันที่ขับตามกันมาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง […]

‘ทรัมป์’ – ‘ปูติน’ หารือไร้ข้อสรุปเรื่องยุติสงครามในยูเครน

แองเคอเรจ, อะแลสกา 15 ส.ค. – การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือพักรบสงครามในยูเครน แม้ว่าผู้นำทั้งสองจะกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม หลังจากการประชุมยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ในอะแลสกา ผู้นำทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยระบุว่ามีความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม นายทรัมป์ซึ่งปกติเป็นคนช่างพูด กลับเพิกเฉยต่อคำถามที่นักข่าวตะโกนถาม นายทรัมป์กล่าวว่า มีความคืบหน้าบ้าง แต่จะยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ จนกว่าจะมีการทำข้อตกลง ดูเหมือนว่าการพูดคุยครั้งนี้จะไม่ได้นำไปสู่การดำเนินการที่มีความหมายเพื่อหยุดยิงในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายทรัมป์ได้ตั้งไว้ก่อนการประชุม แต่เพียงแค่การได้นั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับนายปูตินแล้ว หลังจากเขาถูกผู้นำชาติตะวันตกกีดกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 หลังการประชุมสุดยอด นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ ว่าเขาจะชะลอการกำหนดภาษีนำเข้ากับจีนสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซีย หลังจากที่การเจรจากับนายปูตินมีความคืบหน้า นายทรัมป์ยังเคยขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ แม้ว่านายปูตินจะเพิกเฉยต่อเส้นตายหยุดยิงที่นายทรัมป์กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ นิวส์ นายทรัมป์ยังได้เสนอแนะว่าจะมีการจัดการประชุมระหว่างนายปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย