ขยายผลเอาผิด “บัตรพลังงาน” ฉ้อโกงประชาชน

ขอนแก่น 18 มิ.ย. – จ.ขอนแก่น ประชุมร่วม 4 ฝ่าย มอบตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เป็นเจ้าทุกข์แจ้งดำเนินคดีกับขบวนการหลอกขายบัตรพลังงาน เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 341 และ 343 ฉ้อโกงประชาชน หลังได้หลักฐานการโฆษณาเป็นยารักษาโรค 


ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ เป็กทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่คณะอนุกรรมการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดขอนแก่น ร่วมประชุมความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับบริษัทเจ้าของ “บัตรพลังงาน” ที่มีตัวแทนจำหน่ายนำมาขายให้กับชาวบ้าน โดยอวดอ้างสรรพคุณว่าสามารถใช้รักษาได้สารพัดโรค 


รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวภายหลังการประชุมร่วมว่า หลังจากที่คณะทำงานได้ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลที่ผ่านการรวบรวมจากคณะพนักงานสอบสวน และข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น รวมถึงหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่ตัวแทนจำหน่ายบัตรพลังงานกำลังโฆษณาและสาธิตการใช้บัตรพลังงานให้กับชาวบ้าน ซึ่งมีการอวดอ้างสรรพคุณว่าเป็นยาสามารถรักษาอาการป่วยได้ แต่จากการตรวจพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยืนยันว่า บัตรพลังงานไม่สามารถใช้รักษาโรคใดได้ และยังมีส่วนผสมเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย


พฤติการณ์ดังกล่าวมีความผิดฐานฉ้อโกง มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 343 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 341 ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้วว่า หน่วยงานที่จะเป็นเจ้าทุกข์ในการดำเนินคดี ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ ขอแจ้งไปยังประชาชนที่ใช้บัตรนี้อยู่ให้หยุดการใช้งาน เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย

ด้านรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า หลังจากนี้คณะพนักงานสอบสวนจะเร่งดำเนินการตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เอาผิดกับผู้ร่วมขบวนการหลอกขายบัตรพลังงาน ซึ่งหากสอบสวนแล้วพบหลักฐานว่ามีความผิดเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะต้องถูกดำเนินคดี ประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหาย สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน เพื่อที่ตำรวจจะได้รวบรวมข้อมูลและหลักฐานทั้งหมด เอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง