กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – คมนาคมเร่งรัดพิจารณาค่าโดยสารรถไฟฟ้าแพง ปลัดคมนาคมขอให้ รฟม.ตรวจสัญญาสัมปทานเดิมพิจารณาแนวทางเจรจาคู่สัมปทานลดค่าโดยสาร ขณะที่ปัญหาวินมอเตอร์ไซค์มอบหมายกรมการขนส่งทางบกเจรจาสำนักงานเขตแก้ปัญหาจุดตั้งวิน
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีสังคมพิพากษ์วิจารณ์ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่เห็นว่าราคาปัจจุบันไม่สอดคล้องค่าครองชีพ และค่ารถโดยสารรถไฟฟ้าของไทยสูงกว่าประเทศที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งกว่าไทย ไม่ว่าสิงคโปร์ หรืออังกฤษ ขณะที่ภาคการเมืองอยู่ระหว่างจัดตั้งรัฐบาลมีบางพรรคระบุถึงความจำเป็นปรับลดค่าโดยสารลง เพื่อจูงใจให้คนใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยระบุว่าหากภาครัฐมีนโยบายชัดเจนต้องการปรับลดค่าโดยสาร กระทรวงคมนาคมพร้อมดำเนินการ โดยในส่วนของรถไฟฟ้าเดิมและการให้สัมปทาน รวมถึงโครงการร่วมลงทุนแบบพีพีพี ส่วนนี้จะขอให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ลงไปตรวจสอบสัญญาว่าหากภาครัฐประสงค์ขอปรับลดค่าโดยสารลง โดยพร้อมหาแหล่งเงินชดเชยรายได้ที่ลดลงนี้จะดำเนินการได้หรือไม่ หากดำเนินการได้จะเข้าสู่การเจรจาต่อไป
ส่วนฝ่ายการเมืองเสนอปรับลดราคารถไฟฟ้าที่รัฐเป็นเจ้าของและจ้างเอกชนเดินรถ เช่น รถไฟฟ้าสีม่วง เหลือ 15 บาทตลอดสาย ทำให้ตลอดเส้นทางที่มีการเชื่อมต่อลดลงด้วยนั้น นายชัยวัฒน์ กล่าว่า แนวทางดังกล่าวสามารถทำได้ หากรัฐบาลยอมให้รายได้ส่วนนี้ลดลง เพราะเอกชนรับจ้างการเดินรถจะไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด ซึ่งทั้งหมดหลังมีการจัดตั้งรัฐบาลกระทรวงคมนาคมจะรอนโยบายที่ชัดเจนอีกครั้ง
ขณะที่จุดตั้งวินมอเตอร์ไซค์ หลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาทจนมีผู้เสียชีวิต จากการตวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีวินมอเตอร์ไซค์หลายแห่งตอนจัดระเบียบกำหนดจุดที่ตั้งไว้ที่หนึ่ง หลังจากนั้นมีการย้ายจุดเพื่อให้เกิดการได้เปรียบการรับผู้โดยสารจนเกิดความขัดแย้ง กระทรวงคนาคมขอให้กรมการขนส่งทางบกประสานสำนักงานเขตไปดูจุดที่ตั้งที่ได้รับการชี้ขาดจากคณะกรรมการร่วม 4 ฝ่าย เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามผลการจัดระเบียบอย่างเคร่งครัด รวมทั้งขอให้กรมการขนส่งทางบกดูใบอนุญาตผู้ขับขี่รถสาธารณะ สภาพตัวรถ และใบอนุญาตอื่น ๆ อย่างเข้มงวด
วันนี้กรมการขนส่งทางบกจัดสัมมนาเผยแพร่ผลการศึกษาโครงการมาตรฐานรถโดยสารสาธารณะเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน รวมถึงมอบรางวัลผู้ประกอบการ โดยปลัดกระทรวงคมนาคมให้นโยบายย้ำถึงการปรับตัวรองรับการแข่งขันทั้งผู้ประกอบการและรถโดยสารที่ต้องแข่งขันกับระบบขนส่งอื่น ๆ ไม่ว่าโลคอสแอร์ไลน์ หรือรถไฟความเร็วสูง.-สำนักข่าวไทย