จ่อออกหมายจับอีก 4 คน วินยกพวกตะลุมบอน

กทม. 17 มิ.ย.- คืบหน้าวิน จยย. ยกพวกตะลุมบอนบริเวณซอยอุดมสุขเหตุแย่งผู้โดยสาร ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุแล้ว 3 คน ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม 4 คน


ความคืบหน้าเหตุวินจักรยานยนต์รับจ้าง ก่อเหตุยกพวกตะลุมบอนกันบริเวณซอยสุขุมวิท 103 หรือ ซอยอุดมสุข สาเหตุจากแย่งผู้โดยสารกัน ก่อนตามไปใช้อาวุธปืนยิงใส่คู่อริ ทำให้นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี ชาวชุมชนรุ่งเรืองเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน คือนายวัชรรินทร์ งาเฉลา อายุ 33 ปี คนขี่จักรยานยนต์รับจ้างฝั่งซอยอุดมสุข 1 ถูกกระสุนเข้าท้ายทอยทะลุด้านหน้า ขณะที่ตำรวจ สน.บางนา สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 3 คน ประกอบด้วยนายรังสรรค์ ศรไชยากร อายุ 29 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างฝั่งซอยอุดมสุข 1 ซึ่งอยู่ในภาพกล้องวงจรปิดเป็นผู้สวมเสื้อวินเบอร์ 65 สะพายกระเป๋าข้างโดยมีวัตถุลักษณะคล้ายอาวุธปืนออกมาด้านนอก ซึ่งนายรังสรรค์ ยอมรับเบื้องต้นว่า อยู่ในเหตุการณ์จริง และนายปิยะ พวงเกสร อายุ 45 ปี ซึ่งอยู่ในกลุ่มวินจักรยานยนต์รับจ้างฝั่งเดียวกับนายรังสรรค์ 


ส่วนนายเจริญ เจริญผล อายุ 34 ปี มีพยานซัดทอดว่าใช้อาวุธปืนยิงคู่อริในเหตุการณ์ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางนา จึงควบคุมตัวไปสอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพ ตำรวจจึงคุมตัวไปตรวจยึดอาวุธปืน 1 กระบอก พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งขอศาลอนุมัติหมายจับอีก 4 คน สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ผลพิสูจน์ออกมาว่ามี 3 ชนิด 

ส่วนการตรวจสถานะวินจักรยานยนต์ ภายในซอยสุขุมวิท 103 พบว่าฝั่งซอย 1 ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ 4 ฝ่ายเมื่อเดือนมีนาคม มีนายประมุข วิเชียรดิลกุล เป็นหัวหน้าวินซอย 1 โดยเป็นผู้ยื่นขอใบอนุญาตตั้งวิน แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่านายประมุข เป็นผู้มีอิทธพลสั่งการให้ลูก วินก่อเหตุหรือไม่ ส่วนวินจักรยานยนต์ฝั่งซอย 2 รวมทั้งเร่งตรวจสอบกรณีวินจักรยานยนต์รับจ้างซอย 1 มีการเรียกเก็บค่าหัวคิว หากพบข้อเท็จจริงต้องนำเรื่องส่งให้คณะกรรมการส่วนราชการ 4 ฝ่าย คือ สำนักงานเขต กรมการขนส่งทางบก  ตำรวจ และทหาร พิจารณา เพราะตามปกติไม่ต้องเสียค่าหัวคิวในการเข้าร่วมวิน


ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ พนักงานสอบสวน สน.บางนา คุมตัว นายปิยะ พวงเกสร 1 ในผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุ คดีทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ ย่านอุดมสุข มาสอบสวนปากคำอีกครั้งระหว่างการเดินเข้าห้องสอบสวน นายปิยะ ได้ยืนยันกับสื่อมวลชนว่า ไม่ใช่คนยิงปืนใส่ นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ พนักงานบริษัทขนส่งพัสดุเอกชนเสียชีวิต และพนักงานสอบสวน เตรียมควบคุมผู้ต้องหา 3 คน คือ นายปิยะ นายรังสรรค์ ศรไชยากร และนายเจริญ เจริญผล ไปขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนง พิจารณารับฝากขังชั่วคราว  พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่มีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน 

ด้านพันตำรวจเอกนคร ทองพานิช ผู้กำกับการ สน.บางนา บอกว่า ถึงขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้นำอาวุธปืนไปร่วมก่อเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอเชื่อได้ว่า ทั้ง 3 คน ร่วมกันกระทำความผิดจริง  

ล่าสุด นายจีระพงษ์ วิบูลย์รัชกิจ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊งที่อยู่ระหว่างถูกพักงาน ถูกตำรวจเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ความผิดที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปโดยใช้กำลังประทุษร้ายผู้อื่น และถูกควบคุมตัวไว้ชั่วคราวภายในสถานีตำรวจ 

สำหรับการประชุมติดตามความคืบหน้าคดี พลตำรวจโทสุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะเข้ามาติดตามความคืบหน้าด้วยตัวเองอีกครั้งช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องติดตามต่อ เช่น การจับกุมผู้ต้องหาที่คาดว่ายังหลบหนีในกรุงเทพฯ การเร่งพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ให้น้ำหนักไปที่เรื่องการปิดซอยที่พักของผู้เสียชีวิต ที่มีคนบอกว่าถูกห้ามไม่ให้เข้าไปนำคนเจ็บที่อยู่ภายในซอยออกไปส่งโรงพยาบาล ว่าเกิดจากการห้ามของผู้ก่อเหตุ หรือเป็นความกังวลของเจ้าหน้าที่เอง รวมถึงประเด็นที่สงสัยเรื่องผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

ส่วนความคืบหน้าการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม 4 คน ศาลจังหวัดพระโขนง ได้อนุมัติหมายจับชุดที่ 2 ประกอบด้วยนายมานพ มิ่งมงคล, นายจีระพงษ์ วิบูลย์รัชกิจ, นายพันธ์ศักดิ์ พละทรัพย์, นายประมุข วิเชียรดิลกกุล ความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ความผิดที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน และมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]