fbpx

กรมเจรจาฯใช้เอฟทีเอดันสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลก

นนทบุรี 15 มิ.ย.-กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจับมือสภาเกษตรกรแห่งชาตินำทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษหารือเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง คัดสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลกผ่านกลไกเอฟทีเอ  


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้เพิ่มช่องทางการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปตลาดโลกผ่านความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยจัดทำกับประเทศคู่ค้า ซึ่งกรมเจรจาฯ ร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ ผ่านโครงการ “เพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี” ตลอดปี 2562  รวม 6 ครั้ง ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เน้นการพัฒนาสินค้าเกษตรเพื่อสุขภาพและปลอดภัย (Food Health and Safety) และช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงเอฟทีเอ กฎระเบียบทางการค้า มาตรการทางภาษีและมาตรการที่มิใช่ภาษี รวมถึงการเพิ่มมูลค่าสินค้าโดยการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ สู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า โดยได้ลงพื้นที่ไปแล้ว 4 ครั้ง ในจังหวัดอุดรธานี ปราจีนบุรี แม่ฮ่องสอน และสุโขทัย ประสบความสำเร็จได้การตอบรับอย่างดีจากเกษตรกรในทุกพื้นที่ 

นางอรมน กล่าวว่า ในเดือนมิ.ย.นี้ กรมเจรจาฯ จะลงพื้นที่พบปะเกษตรกรครั้งที่ 5 รวมถึงจัดการเสวนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “ช่องทางรวยของสินค้าเกษตรจากเอฟทีเอ” และ “ทำอย่างไรให้สินค้าเกษตรสู่ตลาดต่างประเทศ” ระหว่างวันที่ 17-19 มิ.ย.นี้ที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือเกษตรกรใน 3 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร ซึ่งมีสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพในพื้นที่ เช่น ชาหอมแดง ทุเรียนและมังคุด พืชสมุนไพร ผ้าไหมเก็บย้อมมะเกลือ เป็นต้น นอกจากนี้  ยังเปิดโอกาสให้เกษตรกรนำสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมาให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและการตลาดวิเคราะห์และติวเข้มแนะนำตลาดส่งออกที่เหมาะสมให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการอีกด้วย ซึ่งกรมฯ มั่นใจว่า ความร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติในปีนี้ จะช่วยยกระดับสินค้าเกษตรของชุมชนตลอดห่วงโซ่การผลิตให้ได้คุณภาพและมาตรฐานสากล รวมถึงเป็นการขยายช่องทางการจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน 


 ที่ผ่านมามูลค่าการค้าระหว่างไทยกับประเทศคู่เอฟทีเอทั้ง 18 ประเทศ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา โดยปี 2561 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดโลกมูลค่ากว่า 2.31 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออกไปประเทศคู่ค้าเอฟทีเอ มูลค่า 1.47 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 64 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด มีตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญคือ จีน อาเซียน และญี่ปุ่น สำหรับผลไม้พบว่า ประเทศคู่ค้าเอฟทีเอของไทยส่วนใหญ่ลดภาษีนำเข้าเหลือร้อยละศูนย์แล้ว  โดยในปี 2561 ผลไม้ไทยมีมูลค่าส่งออกสูงถึง 88,000 ล้านบาท สินค้าผลไม้หลักคือ ทุเรียน ลำไย มังคุด และมะม่วง ตลาดส่งออกสำคัญเช่น จีน เวียดนาม และฮ่องกง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Made in Thailand แดนไทยเท่ : เสน่ห์ผ้าทอชาวเขา สู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเชียงใหม่

ผ้าทอชาวเขาและเครื่องแต่งกายชนเผ่าต่างๆ ของไทยที่มีลวดลายสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร ทำให้ดีไซเนอร์ชาวเชียงใหม่ นำมาออกแบบตัดเย็บ กลายเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่ทันสมัย

ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้องกรณีนักศึกษาไม่ได้รับเงิน

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.-ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้อง กรณีนักศึกษา ไม่ได้รับเงิน ยืนยันโอนเงินให้เแล้ว 

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้โกดังกระดาษดับหมดแน่คืนนี้ เสียหาย 500 ล้าน

เหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บกระดาษรีไซเคิล จ.สมุทรสาคร คุมเพลิงได้แล้ว 90% คาดดับไฟได้หมดภายในคืนนี้ ประเมินความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ด้านเจ้าของพร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

“นายกฯ-แพทองธาร” ขึ้นเวทีเพื่อไทย ยันเงินดิจิทัลได้แน่

“นายกฯ-แพทองธาร” ขึ้นเวทีเพื่อไทยพบประชาชน ขอบคุณชาวร้อยเอ็ด เลือก สส. ให้ได้เป็นรัฐบาล ย้ำเดินหน้าแก้ปัญหาภัยแล้ง-ยาเสพติด ยันดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่สิ้นปีนี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเดินหน้าช่วยประชาชนทุกมิติ

นายกฯ พบชาวบ้านมหาสารคาม ย้ำชัดเงินดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่ไตรมาส 4 ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนในทุกๆ มิติ ทั้งภัยแล้ง ยาเสพติด หนี้นอกระบบ

ปภ.นำเฮลิคอปเตอร์บินโปรยน้ำดับไฟป่าห้วยตึงเฒ่า

เจ้าหน้าที่ ปภ. นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินโปรยน้ำดับไฟป่าหลังอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า และพื้นที่สวนลำไยของชาวบ้าน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่