กรุงเทพฯ 12 มิงย. – ไอแบงก์ตั้งเป้ากำไรปีนี้ 1,100 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อ 12,000 ล้านบาท มั่นใจ 3 ปี ปรับโครงสร้างหนี้ลดลง
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เปิดเผยแผนการดำเนินงาน หลังออกจากกลุ่มรัฐวิสาหกิจที่ต้องจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรและมอบหมายให้กระทรวงการคลังกำกับดูแลไอแบงก์ (แผนฟื้นฟูฯ) ว่า ปีนี้ธนาคารตั้งเป้ากำไรสุทธิอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท และปล่อยสินเชื่อ 12,000 ล้านบาท โดยจะเน้นการพัฒนาธุรกิจเพื่อเพิ่มลูกค้าให้มากขึ้น โดยเน้นลูกค้ากลุ่มพี่น้องมุสลิมและลูกค้ารายใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการมี Mobile Banking ที่จะให้บริการได้ภายในกลางปี 2563 ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการมากขึ้น
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPF) ยอมรับว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 9,300 – 9,400 ล้านบาท จากปัจจุบันกว่า 9,000 ล้านบาท แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีกลุ่มลูกค้าที่ปรับโครงสร้างหนี้บ้างแล้ว แต่ระยะต่อไปมองว่ายังมีลูกค้าบางกลุ่มที่อาจตกชั้นมาเป็นค้างชำระหนี้เกินกว่าที่กำหนด ส่งผลให้ NPF สิ้นปีมีโอกาสขยับขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าระยะยาว 2-3 ปีข้างหน้า NPF มีแนวโน้มลดลงจากแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้
สำหรับผลการดำเนินงานสิ้นปี 2561นั้น ธนาคารสามารถทำกำไรได้ในรอบ 5 ปี โดยมีกำไรสุทธิ 531 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 80,590 ล้านบาท และธนาคารมีการพัฒนากระบวนการและระบบงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและดำเนินการสร้างความยั่งยืนตามนโยบายที่คณะกรรมการธนาคารมอบไว้ให้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธนาคารมีกำไรสุทธิไตรมาส 1/2562 กว่า 170 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 52,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2561 ที่ 2,517.44 ล้านบาท หรือ 5.02%
นอกจากนี้ เพื่อให้การทำงานของธนาคารมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงเตรียมที่จะเสนอแนวทางการปรับโครงสร้างองค์กรให้กับกระทรวงการคลังพิจารณา โดยจะเน้นการทำธุรกิจเชิงรุกที่ไม่เน้นชาวมุสลิมเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการให้ความสนับสนุนลูกค้ารายใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้องค์กรมีผลการดำเนินงานดีขึ้น . – สำนักข่าวไทย