BAM ครึ่งปีแรกกวาดกำไร 1,511 ล้านบาท เดินหน้าลุยธุรกิจเต็มสูบ

กรุงเทพฯ 18 ส.ค. – BAM เผยผลงานครึ่งแรกปี 68 สร้างผลเรียกเก็บได้สูงถึง 10,154 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2567 ถึง 36% ในขณะที่ผลเรียกเก็บไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกปีนี้ 118% และมีกำไร 1,511 ล้านบาท เติบโตถึง 72% ครึ่งหลังปีนี้ลุยธุรกิจเต็มสูบทั้งด้าน NPL/NPA เปลี่ยน Model “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” สู่ Model ธุรกิจใหม่ ในรูปแบบ “Opportunities for All” หวังดันผลเรียกเก็บทั้งปีเข้าเป้า 17,800 ล้านบาท


ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า ผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2568 เป็นที่น่าพอใจ สามารถสร้างผลเรียกเก็บได้สูงถึง 10,154 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 7,493 ล้านบาท หรือโตถึง 36% ขณะที่ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ มีผลเรียกเก็บ 6,962 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก ที่มีผลเรียกเก็บ 3,192 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากถึง 118% และมีกำไร 1,511 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 880 ล้านบาท ซึ่งผลงานทางด้าน NPL ยังใช้แนวทางที่ให้โอกาสลูกหนี้ในการได้หลักประกันซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยหรือที่ทำกินกลับคืนไปด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนปรน และมุ่งช่วยเหลือลูกหนี้ให้สามารถฟื้นฟูกิจการหรือสถานะทางการเงินของตน โดยปรับโครงสร้างหนี้และหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน ด้วยกระบวนการ Recycling Machine ซึ่งมีเป้าหมายในการเร่งสร้างโรงงานแก้หนี้ (TDR Factory) เพื่อฟื้นฟูให้ลูกหนี้กลับมามีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น ซึ่ง BAM สามารถสร้างรายได้จากการปรับโครงสร้างหนี้ NPL ลูกหนี้รายใหญ่รายหนึ่งได้ข้อยุติถึง 2,800 ล้านบาท

ขณะที่การบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA เดินหน้ากลยุทธ์พันธมิตรทางธุรกิจ (NPA Partnership) ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่มุ่งขยายฐานธุรกิจและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ผ่านความร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรที่มีศักยภาพ อาทิ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารยูโอบี ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดย BAM มุ่งเน้นการคัดสรรและนำเสนอทรัพย์ NPA ขนาด Big Lots ให้พันธมิตรนำไปพัฒนาและเพิ่มมูลค่า ทั้งบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม และที่ดินเปล่า เพื่อพลิก “ทรัพย์ร้าง” ให้กลายเป็น “ทรัพย์สร้างกำไร” ต่อยอดเป็นทรัพย์สินที่สร้างรายได้ให้กับ BAM อย่างต่อเนื่อง ลดระยะเวลาการถือครอง และสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว โดย BAM สามารถสร้างยอดขายจากการจำหน่ายทรัพย์แปลงใหญ่ได้ถึง 1,450 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์ดังกล่าวเป็นที่ดินเปล่าจำนวน 50 แปลง ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่รวม 26-3-37.40 ไร่


ส่วนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2568 BAM ยังคงเดินหน้าด้วยกลยุทธ์เชิงรุกทั้งด้าน NPL/NPA ด้วยแนวทาง Stronger Together โดยการเปลี่ยน Model “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” มาสู่ Model ธุรกิจใหม่ ภายใต้แนวคิด “Opportunities for All” ที่ให้โอกาสลูกหนี้ NPL พลิกฟื้นกลับมาเป็นลูกหนี้ Reperforming Loan (RPL) ด้วยกลยุทธ์ TDR Factory และโครงการ FA Center รวมทั้งได้มีการหารือเบื้องต้นกับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) และธนาคารแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับแนวทางการกำหนดรหัสใหม่ให้กับลูกหนี้ผ่อนชำระดีต่อเนื่อง ซึ่ง BAM จะเดินหน้าประสานงานรวมถึงหาพันธมิตรธนาคารที่จะเข้ามาช่วยลูกหนี้กลุ่มนี้ของ BAM ขณะเดียวกัน BAM ยังมีหน้าที่ในการช่วยกลั่นกรองและปรับสภาพหนี้ (Buffer) ของลูกหนี้ เพื่อเป็นการลดภาะหนี้ของสถาบันการเงิน และจะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อออกมาได้มากขึ้น ส่วนทางด้าน NPA ยังเดินหน้าความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรที่เป็น Developers ทั้งขนาด S M L ในรูปแบบ Model ที่ Developers จะเข้ามา flipping และขายให้กลุ่มลูกค้าของตนเอง

อย่างไรก็ดี ทิศทางตลาดบ้านมือสองมีแนวโน้มดีขึ้น โดยเห็นสัญญาณจากสถาบันการเงินเริ่มปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยบ้านมือสองมีสัดส่วนที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับบ้านใหม่ นอกจากนี้ BAM เตรียมเปิดตัวโครงการ “ทรัพย์มหาชน” สำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง สามารถผ่อนชำระกับ BAM โดยตรง หรือผ่อนชำระกับสถาบันการเงินพันธมิตรที่ปล่อยสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ BAM ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวไม่เพียงช่วยให้ BAM ยืนหยัดได้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง แต่ยังแปรเปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสที่จะสร้างการเติบโตให้กับ BAM พร้อมนำไปสู่เป้าหมายผลเรียกเก็บตามที่ตั้งไว้ 17,800 ล้านบาท โดยปัจจุบัน BAM มี NPL ที่อยู่ในความดูแล 91,009 ราย คิดเป็นภาระหนี้เงินต้น 487,117 ล้านบาท และ NPA จำนวน 28,043 รายการ คิดเป็นราคาประเมิน 77,812 ล้านบาท. -517-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

เตรียมถมดินอุดหลุมยักษ์ได้พรุ่งนี้ คาดเปิดถนนได้ 9 ต.ค.

กรุงเทพฯ 29 ก.ย. – วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ คาดพรุ่งนี้เริ่มถมดินอุดหลุมยักษ์ได้ ระบุ 6 วันที่ผ่านมามีทิศทางดี คาดก่อนเปิดถนน 9 ต.ค. ใช้รถบรรทุกวิ่งทดสอบ สร้างความมั่นใจก่อนเปิดใช้จริง ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหลุมยุบขนาดใหญ่บริเวณหน้า รพ.วชิรพยาบาล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ เริ่มเคลื่อนย้ายท่อเหล็กขนาดใหญ่ เพื่อวันพรุ่งนี้เตรียมจะถมดินลงไปในหลุม บริเวณสถานีตำรวจนครบาลสามเสน ซึ่งเป็นจุดที่ต้องให้ระดับพื้นดินเท่ากันและมั่นคง ทีมวิศวกรจะใช้รถแม็คโครขนาดเล็กดำเนินการขุดและตรวจสอบใต้ท้องอาคาร พร้อมอาจมีการเสริมโครงสร้างชั่วคราวในช่องว่างใต้ฐานราก เพื่อรักษาเสถียรภาพของอาคารไว้ สำหรับการเปิดพื้นผิวจราจร คาดว่าจะสามารถเปิดพื้นถนนได้ในวันที่ 8 ตุลาคม และเปิดให้รถสัญจรได้ในวันที่ 9 ตุลาคม โดยก่อนเปิดใช้เส้นทางอย่างเป็นทางการ ทางสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะมีการทดสอบความแข็งแรงของพื้นผิวถนนก่อนเปิดใช้งาน เพื่อความมั่นใจของพี่น้องประชาชน โดยเตรียมใช้รถบรรทุกวิ่งผ่าน เพื่อประเมินความแข็งแรง หรือให้เจ้าหน้าที่ทดลองขับรถผ่านก่อน อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นเดือนตุลาคม หากการซ่อมแซมเป็นไปตามแผนก็มีความเป็นไปได้สูงที่ประชาชนจะสามารถกลับเข้าพักอาศัยในอาคารใกล้เคียงได้อีกครั้ง ทั้งนี้ต้องผ่านการประเมินสภาพโครงสร้างอย่างละเอียดก่อน. -415-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” นำทีม ครม.แถลงนโยบายรัฐบาล 30 นาที

รัฐสภา 29 ก.ย.-“อนุทิน” นำทีม ครม.แถลงนโยบายรัฐบาล 30 นาที ยันมุ่งมั่นบริหารราชการแผ่นดิน ขับเคลื่อนนโยบาย แก้ปัญหาเฉพาะหน้า-วางรากฐานนำพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า พร้อมชูโครงการ “คนละครึ่ง” ลดรายจ่าย เร่งดับไฟสงครามไทย-กัมพูชา ประกาศชัดล้มกาสิโนถูก กม .ยึดหลักซื่อสัตย์-ผลประโยชน์ประเทศ การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประะานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นำทีมครม.เข้าแถลงนโยบายรัฐบาลอย่างพร้อมเพรียง ระบุว่า ครม.ขอแถลงหลักการบริหารราชการแผ่นดิน และนโยบายสำคัญของรัฐบาล จะยึดหลักสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.พิทักษ์รักษาไว้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3.ยึดมั่นหลักนิติธรรม บังคับใช้กฎหมายเป็นธรรม บริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานธรรมาภิบาล นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลเข้าบริหารราชการภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศไทยเผชิญความไม่แน่นอนรอบด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง […]

“สีหศักดิ์” รับเป็นเรื่องดีไทยได้แจงบนเวที UNGA

รัฐสภา 29ก.ย.-“สีหศักดิ์” รับเป็นเรื่องดีไทยได้แจงบนเวที UNGA เหตุกัมพูชาพูดตรงข้ามกับสิ่งที่ตกลง เชื่อนานาประเทศเข้าใจไทยมากขึ้น ย้ำไทยเดินบนเส้นทางสันติภาพ ยันไม่ปิดประตูคุยกัมพูชา เชื่อจบในเวทีทวิภาคี นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ UNGA ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ได้แสดงท่าทีของประเทศไทย และดีใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทุกอย่างทำตามหน้าที่ และจากการพูดคุยก่อนแถลงในที่ประชุม ทั้งมาเลเซีย และสหรัฐอเมริกาอยากให้ไทยและกัมพูชา สามารถพูดคุยกันได้ ซึ่งได้ชี้แจงท่าทีของไทยไปแล้ว และนานาประเทศเข้าใจประเทศไทยมากขึ้น ที่ผ่านมากัมพูชาได้เสนอข้อมูลฝ่ายเดียว พยายามสร้างความได้เปรียบ ทั้งที่ได้พูดคุยกันแล้วว่า จะมองไปข้างหน้า สิ่งที่ได้ตกลงกันซึ่งควรแสดงความจริงใจ สิ่งที่กัมพูชาขึ้นไปกล่าวถ้อยแถลงนั้นตรงข้ามกับสิ่งที่พูดคุยกัน จึงจำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริง นายสีหศักดิ์ ยังกล่าวถึงเสียงตอบรับจากนานาประเทศ ว่า ได้พูดตามข้อเท็จจริง ซึ่งก็น่าจะเข้าใจ ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา หลังจากนี้เป็นอย่างไร นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ขอคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อน พร้อมยอมรับว่ามีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และภายหลังลงจากเวที UNGA ยังไม่ได้พูดคุยกับกัมพูชา แต่ก็พร้อมที่จะพูดคุย และต้องทำตามในสิ่งที่ตกลง ต้องมีความจริงใจ […]

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย